กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – กระทรวงพลังงาน ติดฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเพิ่ม 4 ผลิตภัณฑ์ ช่วยชาติประหยัดนำเข้าพลังงานกว่า 23,380 ล้านบาท/ปี
กระทรวงพลังงาน โดย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) มอบฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงให้ผู้ประกอบการเพิ่มอีก 4 ผลิตภัณฑ์ส่งผลให้การดำเนินงานตั้งแต่ปี 2550-2560 มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการติดฉลากรวม 15 ผลิตภัณฑ์และออกฉลากรวม 31.2 ล้านใบเกิดการประหยัดพลังงาน รวม 640 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อปี คิดเป็นมูลค่าที่ประหยัดได้ 23,380 ล้านบาทต่อปี
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (22 ธ.ค.60) กระทรวงพลังงาน โดย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้จัดพิธีมอบฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง ปี 2560 ภายใต้ “โครงการส่งเสริมเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงและวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยการติดฉลาก” ให้กับผู้ประกอบการเพิ่มเติมอีก 4 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เตารังสีอินฟราเรด, ฟิล์มติดกระจก, คอนกรีตมวลเบา, กระเบื้องหลังคา ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมอบฉลากดังกล่าวทั้งสิ้นแล้ว 15 ผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายกระทรวงพลังงานภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน(EEP-2015) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมผู้บริโภคเลือกใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการพัฒนาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของตนให้สูงขึ้น ครอบคลุมทั้งกลุ่มอุปกรณ์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม, ภาคที่อยู่อาศัย, ภาคธุรกิจ และภาคเกษตร เพื่อลดการนำเข้าพลังงานของประเทศและรองรับการแข่งขันของตลาดที่ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับสินค้าที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น
“จะเห็นว่าทุกภาคส่วนมีการตื่นตัวในสินค้าประหยัดพลังงาน โดยผู้ผลิตก็หันมาติดฉลากมากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคก็เลือกซื้อสินค้าที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานของประเทศได้เป็นอย่างมาก และในอนาคตกระทรวงพลังงานจะมีการพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่จะส่งเสริมโดยการติดฉลากเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต” นายประพนธ์ กล่าว
การติดฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอีก 4 ผลิตภัณฑ์ข้างต้นส่งผลให้มีผู้ประกอบการที่ได้รับฉลากในปี 2560 จำนวน 94 ราย ในผลิตภัณฑ์ 1,838 รุ่น จำนวนฉลากประสิทธิภาพสูงรวม 7.2 ล้านใบ ซึ่งจะส่งผลให้ลดการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงได้ 32 ล้านกิโลกรัมต่อปี, ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลงได้ 8 ล้านลิตรต่อปี และลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้ประมาณ 1,250 ล้านหน่วยต่อปี คิดเป็นพลังงานที่ลดได้รวมทั้งสิ้น 150 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe) มูลค่าพลังงานที่ประหยัดได้รวม 4,594 ล้านบาทต่อปี ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 750,000 ตันต่อปี
ทั้งนี้ พพ.ได้ติดฉลากดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 มุ่งเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน โรงงานอุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง และภาคการเกษตร โดยใช้ชื่อฉลากว่า“ฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง” และดำเนินการส่งเสริมควบคู่กับ “ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์5” ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มุ่งเน้นเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเป็นหลัก โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2550-2559 ได้ดำเนินการส่งเสริมติดฉลากไปแล้วใน 11 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เตาหุงต้มในครัวเรือน, เตาก๊าซความดันสูง, อุปกรณ์ปรับความเร็วรอบมอเตอร์, กระจก, ฉนวนใยแก้ว, มอเตอร์สามเฟส, เครื่องยนต์ดีเซลการเกษตร, เครื่องยนต์แก๊สโซลีนการเกษตร, เครื่องอัดอากาศ, ปั๊มความร้อน และสีทาอาคารเมื่อรวมกับ 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ส่งผลให้ พพ.ได้ดำเนินติดฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงรวมแล้ว 31.2 ล้านใบเกิดการประหยัดพลังงานรวม 640 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อปี คิดเป็นมูลค่าที่ประหยัดได้ 23,380 ล้านบาทต่อปี