รัฐสภา 19 ธ.ค. – ประธาน สนช.หนุนกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป.ป.ช.ให้เพิ่มอำนาจดักฟังโทรศัพท์ แชทไลน์ ตรวจสอบไปรษณีย์ ยอมรับกระทบสิทธิส่วนบุคคล แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ สนช.จะเห็นด้วยหรือไม่
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช. ) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพิ่มอำนาจ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช. ) ให้ดักฟังโทรศัพท์ แชทไลน์ ตรวจสอบไปรษณีย์ได้ว่า เป็นการกระทบสิทธิส่วนบุคคลแน่นอน แต่ต้องดูว่าสมควรให้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องแค่ไหน และในโลกปัจจุบันพวกอาชญากรมีการดักฟังกันอยู่แล้ว ทุกประเทศต้องมีมาตรการในการเข้าไปตรวจสอบ อย่างสหรัฐอเมริกาในอดีตเคร่งครัดเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่หลังเหตุการณ์ 911ก็มีการผ่อนปรนให้หน่วยงานรัฐเข้าไปดักฟังโทรศัพท์ได้
ส่วนที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ขอสงวนคำแปรญัตติและไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ประธาน สนช. กล่าวว่า ขออย่ามองเป็นเรื่องของความขัดแย้ง เพราะต้องส่งให้ที่ประชุมสนช. พิจารณาตามกระบวนการซึ่งจะได้มีการชี้แจงเหตุผลและข้อห่วงใยต่าง ๆ และที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากในที่ประชุม สนช. แล้วแต่ใครจะชนะ
ส่วนกรณีที่กรรมาธิการกลับมติ กรธ. ไม่รีเซ็ตกรรมการ ป.ป.ช.นั้น ประธาน สนช. กล่าวว่า ไม่สามารถเปรียบเทียบกับองค์กรอิสระอื่น ๆ ในเรื่องความไม่เป็นธรรมได้เพราะแต่ละองค์กรที่ถูกเซ็ตซีโร่ หรือการให้ดำรงตำแหน่งต่อ มีเหตุผลที่แตกต่างกันโดยส่วนตัวไม่ขอแสดงความเห็น เพราะเรื่องนี้มองแตกต่างกันหลายฝ่าย เช่น ป.ป.ช. มองว่ามีสิทธิ์ที่ได้รับการสรรหาตามรัฐธรรมนูญ แต่ กรธ. เห็นควรให้ยึดตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน
นอกจากนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย เปิดเผยว่า ศาลฎีกา ได้ส่งคำยืนยันกรณีสรรหากรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในสัดส่วนของศาลฎีกา 2 คน มาให้แล้วว่าได้ดำเนินการโดยเปิดเผย ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งหลังจากนี้จะไปตรวจสอบรายละเอียดของเอกสารที่ส่งมา และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย