fbpx

นายกฯ พอใจอียูรื้อฟื้นความสัมพันธ์

ทำเนียบฯ 12 ธ.ค.- นายกฯ เผยถึงมติอียูในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการเมืองกับไทย ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่เห็นถึงความพยายามของรัฐบาล ส่วนการปลดล็อกทางการเมือง รอกฎหมายแล้วเสร็จทั้งหมดและปัจจัยทุกอย่างเรียบร้อย ย้ำให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรค


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง กรณีที่คณะรัฐมนตรีต่างประเทศ สหภาพยุโรป หรือ อียู มีมติฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการเมืองกับประเทศไทย ว่า เป็นเรื่องที่ดีกับประเทศไทยและเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะสื่อสารมาโดยตลอดกับทุกประเทศ โดยเฉพาะกับสหภาพยุโรปที่ถือเป็นตลาดสำคัญ และมีการค้าการลงทุนกับไทยในระดับสูง รัฐบาลได้พยายามทำความเข้าใจทั้งในเรื่องของแผนการทำงาน และการวางยุทธศาสตร์ชาติ  ซึ่งท่าทีของอียูในครั้งนี้ ไม่ใช่การตั้งเงื่อนไขกับประเทศไทย แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึง สิ่งที่อียูมีความเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจขับเคลื่อนประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ไทยกำลังเดินตามโรดแม็ป ที่จะไปสู่การเลือกตั้ง ที่ได้ประกาศไว้ ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 แต่เรื่องระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณากฎหมายลูก ว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเวลาใด และวันนี้รัฐบาลยังต้องคำนึงถึงสถานการณ์ความปลอดภัยของประเทศด้วย และเชื่อว่าหลายประเทศมีความเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ แต่กลับเป็นบางกลุ่มในประเทศที่ไม่เข้าใจและมีการบิดเบือนข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่องนี้ 


พล.อ.ประยุทธ์  ยังกล่าวถึงขั้นตอนของการพิจารณาการออกกฎหมายลูกว่า เป็นการทำงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปสั่งการหรือเร่งรัดใด ๆ ได้ ตามที่มีบางฝ่ายพยายามพูดว่า รัฐบาล หรือ คสช. สามารถสั่งให้ สนช.พิจารณากฎหมายได้ รัฐบาลทำได้เพียงนำกฎหมายเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ สนช. เนื่องจากสมาชิก สนช. ไม่ได้มาจากทหารทั้งหมด แต่มาจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะต้องมีการถกเถียงและชี้แจงข้อมูลในการพิจารณากฎหมายแต่ละฉบับ 

ส่วนที่วันนี้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับการดำเนินการของพรรคการเมือง ทั้งในการคัดเลือกกรรมการบริหารพรรค และการสำรวจสมาชิกพรรค รวมถึงการจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ตามกรอบเวลาของกฎหมายลูกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  รัฐบาลจะดูแลให้พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคใหม่ และพรรคใหญ่หรือพรรคเล็ก ให้ได้รับ ความเท่าเทียม ไม่เสียเปรียบซึ่งกันและกัน  สำหรับเรื่องการปลดล็อกนั้น เมื่อกฎหมายลูกแล้วเสร็จ และปัจจัยทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะปลดล็อกให้ดำเนินกิจกรรมได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวล 

“ผมเห็นพูดกันมานานแล้วเรื่องปลดล็อก ผมบอกแล้วว่า เมื่อกฏหมายเรียบร้อยแล้วจะปลดล็อกให้อยู่ดี ก็จะปลดล็อกเป็นขั้น ๆ ไป บอกกันวันนี้ซะเลย ทุกพรรคการเมืองมีความจำเป็นแตกต่างกันออกไป ทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ พรรคใหม่พรรคเก่า ก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย การที่จะมาอ้างพรรคเก่าใช้เวลามากกว่า ไม่ลองคิดถึงพรรคเล็กบ้าง ไม่ได้หมายความว่า พรรคของผมอย่างที่มีการกล่าวอ้าง ยังไม่มีทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อท่านเป็นพรรคเก่าไม่ มีสมาชิกเก่าเยอะอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลย ท่านเช็คแป๊ปเดียวก็ออกมาอยู่แล้ว สิ่งสำคัญต้องเตรียมการในเรื่องสมัครพรรคการเมือง ต้องมีการบริจาคเงิน  ก็คงจะปลดล็อกให้ทำได้ต่อไปในอนาคต” นายกฯ กล่าว


ต่อข้อถามว่า มีการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 ดำเนินการปลดล็อกว่า เรื่องของการเลือกตั้ง เป็นเรื่องสำคัญหรือเรื่องคอขาดบาดตายของประเทศ คงต้องใช้กระบวนการกฎหมายปกติดำเนินการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้