กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – ผู้ผลิตกระจกเผย อุตสาหกรรมกระจกในไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง ตามอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโต โดยบางปีความต้องการใช้กระจกสูงเกินจีดีพี
นายสมพร เต็มอุดมสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานผลิต บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมกระจกในประเทศไทย กำลังขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการใช้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในการสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ โดยความต้องการใช้กระจกเติบโตอย่างต่อเนื่องร้อยละ 5-7 ต่อปี และยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ด้วยปริมาณการผลิตกระจกแผ่นในประเทศที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จึงมีการนำเข้ากระจกจากต่างประเทศ ถึงร้อยละ 20 หรือประมาณ 2,400 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวม 12,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้คาดว่า ความต้องการกระจกในการสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ จะยังคงเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวเศรษฐกิจประเทศ บางปีมีอัตราการขยายตัวของความต้องการกระจกจะสูงกว่าจีดีพี
การผลิตกระจกในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ผลิต 3 รายคือ อาซาฮีของกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น โรงงานผลิตกระจกการ์เดียนจากประเทศสหรัฐ และบริษัท บีจี โฟลต กล๊าส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท บางกอกกล๊าส (บีจี) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกระจกแห่งแรกที่เป็นของคนไทย ตั้งโรงงานที่ บีจีเอฟ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี บนเนื้อที่ 150 ไร่ มีกำลัง การผลิต 2.19 แสนตันต่อปี งบประมาณก่อสร้างโรงงาน 5,000 ล้านบาท บริษัทเตรียมขยายธุรกิจ รองรับความต้องการทั้ง ในประเทศและภูมิภาคอาเซียน
บีจีเอฟ ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากบริษัท กลาส เทรอช โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระจกรายใหญ่ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีการนำทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันสมัย ยกระดับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งบีจีเอฟเป็นรายแรกในประเทศที่นำเทคโนโลยีการผลิตกระจกเคลือบแบบ Hard coat มาใช้ รวมถึงเทคโนโลยีการตรวจสอบคุณภาพของกระจก ผ่านเครื่องตรวจสอบความหนา และสแกนหาสิ่งปนเปื้อนในกระจกเพื่อให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์
นายโชคชัย ศรีสุนทรพาณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปร่วม บริษัท บีจี โฟลต กล๊าส จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้บีจีเอฟ จะเริ่มผลิตกระจกแผ่นใสออกสู่ตลาดก่อนในช่วงแรก และด้วยจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการเคลือบผิวด้วยไอเคมี หรือ Online CVD Hard Coating และระบบตรวจสอบคุณภาพโดยชุดกล้องตรวจสอบ (Float Scan Plate) รายแรกของประเทศ และยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ได้ร่วมพัฒนากับ บจก. กลาส เทรอช เพื่อให้โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตกระจกได้เต็มประสิทธิภาพ และต่อยอดไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ กระจกเทมเปอร์ กระจกลามิเนต และกระจกประหยัดพลังงาน BGF Natural Cool เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอย่างครบวงจร
โรงงานผลิตกระจกบีจีเอฟ กบินทร์บุรีกล๊าส ถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัท บีจี บริษัทแม่ที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์แก้วให้ครอบคลุมทุกวิถีการดำเนินชีวิต พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจแก้วครบวงจร หรือ Total Glass Solutions รองรับการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงในอนาคต-สำนักข่าวไทย