fbpx

นักเรียน ม.4 ยากจน-แม่ป่วยต้องนำน้องมาเลี้ยงในห้องเรียน

อุดรธานี 14 พ.ย.-ครูวอนช่วยเด็กนักเรียนชั้น ม.4 ยากจนแม่ป่วยนอนโรงพยาบาล ต้องนำน้องมาเลี้ยงในห้องเรียน


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ได้ไปที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการอุดรธานี (บ้านผือพิทยาสรรค์) อ.บ้านผือ หลังทราบข่าวจาก นางจรัสศรี เริ่มรักษ์ ครูประจำชั้น ม.4/7 ว่า มีเด็กนักเรียนยากจน แม่ป่วยเรื้อรังต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด จนทำให้ทางบ้านของเด็กนักเรียนคนนี้ ที่มีน้องอายุ 2 ขวบ อีก 1 คน และไม่มีใครดูแล เด็กนักเรียนต้องขออนุญาตครู นำน้องมาเรียนหนังสือด้วย


โดยเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ชื่อ น.ส.เบญจพร หรือน้องเบญ อ่อนสุวรรณ อายุ 16 ปี นั่งเรียนจดบันทึกอยู่ในห้องเรียน ขณะที่นั่งเรียนมี ด.ญ.เบญจมาศ อ่อนสุวรรณ หรือน้องมะนาว อายุ 2 ขวบ 7 เดือน นั่งอยู่ด้านหลังบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน ใต้โต๊ะจะมีเสื้อผ้าเด็ก กล่องนม น้ำ และขนม ซึ่งน้องมะนาวไม่มีท่าทีซน ดื้อ ทำเสียงดังรบกวนพี่สาว หรือนักเรียนที่นั่งทำงานอยู่ในห้องเลย โดยมีครูจรัสศรี เริ่มรักษ์ ครูประจำชั้นช่วยดูแลด้วย 

น้องเบญ เล่าถึงสาเหตุที่ต้องนำน้องมะนาว มาเลี้ยงที่โรงเรียน เนื่องจากนางวัน พุทธรักษา อายุ 41 ปี แม่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ และแคลเซียมต่ำ มีอากรลมชัก ต้องเข้ารักษาตัวนอนอยู่ในโรงพยาบาลบ้านผือเป็นประจำ และครั้งละเวลานาน ส่วนนายอารีย์ อ่อนสุวรรณ อายุ 49 ปี พ่อไปทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กร้านอาหารใน จ.ขอนแก่น รายได้วันละ 300 บาท และทำงานหาเงินอยู่คนเดียว ส่งเงินมาให้เดือนละ 3-4 พันบาท และทางบ้านที่มีฐานะยากจน ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง พ่อและแม่ต้องไปกู้เงินกองทุนหมู่บ้าน 6 หมื่นบาท เพื่อไปสร้างบ้านด้วยอิฐบล๊อกชั้นเดียวในพื้นที่ชุมชนเพื่ออยู่อาศัย และนำมาใช้จ่ายในครอบครัว นอกจากนี้ยังมีหนี้นอกระบบอีก 3 หมื่นบาท ที่นำมาซื้อรถจักรยานยนต์และใช้จ่ายในครอบครัว

น้องเบญ เล่าต่อว่า เงินที่พ่อส่งมาให้เดือนละ 3-4 พันบาท จะนำไปใช้หนี้กองทุนหมู่บ้าน และหนี้นอกระบบ ที่เหลือจะใช้จ่ายในครอบครัว ที่ส่วนมากจะเป็นค่าเดินทางไปโรงพยาบาลและโรงเรียน แทบจะไม่พอใช้ เมื่อเงินหมดไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ก็ต้องไปขอข้าวก้นบาตรที่วัดมากิน เวลาแม่ต้องไปนอนโรงพยาบาล ตนเองต้องอยู่บ้านกับน้อง 2 คน เมื่อตนเองมาโรงเรียน จะไม่มีคนดูแลน้อง จึงต้องขออนุญาตครูประจำชั้น ขอนำน้องมาเลี้ยงในห้องเรียน ซึ่งครูและเพื่อนในห้องเรียนก็อนุญาต ไม่อายที่ต้องนำน้องมาเลี้ยงในห้องเรียน เพราะเป็นน้องของหนู


ด้านนางจรัสศรี เริ่มรักษ์ ครูประจำชั้นของน้องเบญ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ แม่ของ น.ส.เบญจพร โทรศัพท์มาขอลาหยุดให้ลูกสาว แจ้งว่าตัวแม่จะเข้าโรงพยาบาล ทางบ้านไม่ใครดูแลเลี้ยงน้อง แต่ตนเองไม่อยากให้เสียการเรียน จึงเดินทางไปเยี่ยมที่บ้าน ที่เป็นบ้านเก่าทรุดโทรม โดย น.ส.เบญจพร อยู่กับน้อง 2 คน ตนเองเห็นอย่างนั้นจึงบอกให้เขานำน้องมาเลี้ยงที่โรงเรียน โดยได้เล่าถึงความจำเป็น และขออนุญาตกับทาง นายสาส์นลิขิตชัย พลไธสง ผอ.โรงเรียน ซึ่งท่านก็อนุญาต พร้อมกับได้ขออนุญาตเพื่อนในชั้นเรียน ซึ่งทุกคนยินดีที่จะช่วยเลี้ยงน้องของ น.ส.เบญจพร เมื่อนำน้องมาเลี้ยงที่โรงเรียน เพื่อนๆ ก็เตรียมนมกล่องมาให้น้องมะนาวได้กิน รวมทั้งครู พ่อแม่ผู้ปกครอง ของนักเรียนในโรงเรียน ที่ทราบข่าว ก็ฝากนมและขนมมาให้ด้วย

นางจรัสศรี บอกอีกว่า ทางโรงเรียนช่วยเหลือนักเรียนได้ในระดับหนึ่ง ทั้งอาหารกลางวัน อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้า และได้ขอความช่วยเหลือผ่านทางโลกออนไลน์ ตนเองจึงอยากวอนผู้ใจบุญ ช่วยเหลือครอบครัว น.ส.เบญจพร ที่ยากจน ไม่มีบ้านอยู่ ให้มีทุนการศึกษา ให้ได้เรียนจนจบปริญญาตรี จนสามารถมีงานทำเลี้ยงชีพและครอบครัว ซึ่งจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ผู้ใจบุญสามารถโอนเงินช่วยเหลือ น.ส.เบญจพร และครอบครัว ทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)สาขาศูนย์การค้า เอ็น อาร์ คอมเพล็กซ์  ชื่อบัญชี น.ส.เบญจพร อ่อนสุวรรณ เลขที่บัญชี 408-170841-3.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553