กทม. 13 พ.ย. – สร้างความฮือฮาอย่างมาก เมื่อกองทัพเรือขุดพบปืนใหญ่โบราณ 12 กระบอก อายุกว่า 200 ปี ถูกฝังดินมากว่า 130 ปี ที่บริเวณกรมอู่ทหารเรือ ฝั่งธนบุรี ปืนใหญ่เหล่านี้เปรียบเสมือนทหารผ่านศึก ปกป้องแผ่นดินไทยจากศัตรู แต่ละกระบอกเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของชาติไทยอย่างไร ติดตามจากรายงาน
ปืนใหญ่โบราณทั้ง 12 กระบอก ที่ถูกขุดพบ เป็นปืนโบราณในยุคที่ต้องอัดลูกปืนใหญ่ และดินปืนใส่ทางปากกระบอกปืน มีทั้งปืนประจำเรือรบโบราณและประจำป้อมปืน ซึ่งพื้นที่ในกรมอู่ทหารเรือ ในอดีตเคยเป็นพระนิเวศน์ของเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก หรือรัชกาลที่ 1 ก่อนขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ของราชจักรีวงศ์ ที่ได้ทำโรงหล่อปืนใหญ่ รวมทั้งอาวุธต่างๆ เพื่อต่อสู้กับข้าศึกมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เจ้ากรมพัฒนาการช่าง กรมอู่ทหารเรือ บอกว่า ปืนใหญ่ทั้งหมดมีอายุถึง 200 ปี ถูกฝังอยู่ที่ความลึกกว่า 2 เมตร มานานกว่า 130 ปี ใช้เวลาขุดขึ้นมาจากใต้ดินนานถึง 2 สัปดาห์ เพราะต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะปืนกระบอกใหญ่ที่สุดที่ปากกระบอกกว้าง 10 นิ้ว ถูกฝังอยู่ใต้ดินในลักษณะปากกระบอกปืนลงดินลึก 2 เมตร
ปืนใหญ่โบราณขนาดรองลงมามีความยาว 8 ฟุต 2 กระบอก ซึ่งปืนใหญ่ทั้ง 3 กระบอกนี้จะมีตราสัญลักษณ์มงกุฎของประเทศอังกฤษ และสลักเลขปืนด้วย นอกจากนี้ยังมีปืนโบราณขนาดกลาง 1 กระบอก ที่หล่อในฝรั่งเศส ยุคนโปเลียน คาดว่าเป็นปืนที่ทหารอังกฤษยึดมาจากฝรั่งเศสเมื่อรบชนะแล้วนำมาขายให้ไทยพร้อม ๆ กับปืนของอังกฤษ ขณะที่อีก 8 กระบอกเล็ก คาดว่าเป็นปืนที่หล่อขึ้นเองในยุคธนบุรี ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการสร้างอาวุธที่โรงหล่อหลวง ใต้วัดระฆัง ที่ขณะนี้คือโรงงานหล่อหลอม กองโรงงานอู่ทหารเรือธนบุรีในปัจจุบันนั่นเอง
ปืนใหญ่เหล่านี้เปรียบเป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับใช้ชาติ ปกป้องแผ่นดินไทยจากศัตรู จึงต้องให้เกียรติด้วยการขุดขึ้นมาไว้ในที่ที่เหมาะสม ซึ่งแท้จริงแล้วในชั้นใต้ดินจุดที่ค้นพบไม่ได้มีปืนโบราณแค่ 12 กระบอกนี้เท่านั้น แต่ยังมีปืนใหญ่อีกจำนวนมากฝังอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีนโยบายขุดขึ้นมาในขณะนี้ โดยเบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญจะพิสูจน์อัตลักษณ์ปืนโบราณทั้งหมด เพื่อนำไปเก็บรักษาให้ทุกคนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติไทยต่อไป. – สำนักข่าวไทย
