สธ.10 พ.ย.-สมาพันธ์แพทย์ เผยเหตุความรุนแรงใน รพ. พบบ่อยมากขึ้น มีทั้งระหว่างผู้ป่วย ญาติกับบุคลากร,ผู้ป่วยกับผู้ป่วย มากที่สุดเป็นเรื่องการใช้วาจารุนแรง รองลงมาทางกายและสื่อโซเชียลมิเดีย คาดสาเหตุมาจากสังคมไทยนิยมใช้ความรุนแรง ขาดความเชื่อใจระหว่างแพทย์กับคนไข้ เสนอทางออกบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด เท่ากับวิวาทในสถานที่ราชการ เพื่อให้คนเคารพสถานที่
นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร ประธานสมาพันธ์แพทย์ โรงพยาบาลศูนย์,โรงพยาบาลทั่วไป กล่าวในการสัมมนา “วิกฤตคุกคาม ความรุนแรงในโรงพยาบาล ทางออกคืออะไร ”ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานพยาบาล ขณะนี้พบได้บ่อยครั้งมากขึ้น และเชื่อว่ามีมากกว่าในหน้าหนังสือพิมพ์ โดยสถานที่ที่มักเกิดความรุนแรง เกิดขึ้นในบริเวณห้องฉุกเฉิน ซึ่งเป็นห้องที่ใช้ดูแลผู้ป่วยวิกฤต ทำให้อารมณ์ทั้งของผู้ป่วยและญาติ ที่มีความร้อนแรง กังวล เกิดการกระทบจิตใจได้ง่าย โดยความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาล แบ่งผู้ได้รับผลกระทบออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. ระหว่างผู้ป่วย หรือญาติ กับบุคคลากรสาธารณสุข 2.ระหว่างผู้ป่วยกับผู้ป่วยด้วยกันเอง ประเภทของความรุนแรง พบมากที่สุดคือการใช้วาจา กระทบกระทั่งกัน รองลงมา ทางกายและการใช้สื่อโซลเชียลโจมตี สร้างความเข้าในผิด
นพ.ประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า หากวิเคราะห์สาเหตุของการใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลก็จะพบว่า มาจากสังคมไทยที่ขณะนี้นิยมใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับผู้ป่วย เปลี่ยนไป ไม่ได้มีความเคารพศรัทธากัน ไว้เนื้อเชื่อใจเหมือนแต่ก่อน กลายเป็นถูกกำจัดให้เป็นแค่ผู้ให้บริการและผู้รับบริการหรือผู้บริโภค อีกทั้งสถานพยาบาล โดยเฉพาะห้องฉุกเฉิน เป็นแบบเปิดกว้าง ใครๆก็สามารถเข้าไปได้เพราะต้องใช้ความสะดวกและรวดเร็วในการดูแลผู้ป่วย ทำให้ยากที่จะคัดกรองควบคุม หากให้มีการเปลี่ยนระบบดูแลรักษาความปลอดภัยหรือเปลี่ยนโครงสร้างอาคารพยาบาลใหม่ ก็จะต้องใช้งบประมาณที่สูง
นพ.ประดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า บทลงโทษของการใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลก็มี เช่นเดียวกับการใช้ความรุนแรงในสถานที่ราชการ เพียงแต่สังคมไทย ติดความอะลุ้มอล่วย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายขาดความจริงจัง แค่ยกกระเช้าขอโทษเรื่องก็จบ ซึ่งความจริงให้อภัยสามารถทำได้ แต่กฎหมายต้องดำเนินการควบคู่ เพื่อให้เกิดการเคารพสถานที่ และเกิดความศักดิ์สิทธิ์ในการใช้กฎหมาย ในต่างประเทศทะเลาะวิวาทในห้องฉุกเฉิน โทษจำคุก 4 เดือน อย่างไรก็ตามทางสมาพันธ์และทุกวิชาชีพด้านสาธารณสุข จะมีการหารือในเรื่องนี้และนำข้อสรุปที่ได้เสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข .-สำนักข่าวไทย