นนทบุรี 7 พ.ย. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล สมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และ Kanya Academy จัดอบรมการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพสำหรับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ หวังสร้างรายได้เข้าประเทศจากผู้สูงวัยต่างชาติที่เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางชีวิต
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจบริการสุขภาพเป็นธุรกิจที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญส่งเสริมให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีมาตรฐาน บริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงธุรกิจภายใต้ธุรกิจบริการสุขภาพ คือ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่มีความโดดเด่นและเป็นที่จับตามองจากนักธุรกิจไทยและต่างชาติถึงโอกาสในการพัฒนาและเติบโต เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญและเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการคาดคะเนว่าปี 2563 จะมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปมากถึง 12 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ขณะที่ประเทศฝั่งยุโรปและประเทศที่ใกล้ชิดกับประเทศไทยอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ก็ก้าวสู่สังคมแห่งผู้สูงอายุแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่ามีผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุประมาณ 800 ราย เป็นนิติบุคคล 200 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 2,282.97 ล้านบาท และเป็นบุคคลธรรมดาประมาณ 600 ราย มีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพบริหารจัดการ 75 ราย (นิติบุคคล 35 ราย และบุคคลธรรมดา 40 ราย) หากนำจำนวนธุรกิจมาเปรียบเทียบกับสัดส่วนของประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกปีแล้วจะเห็นว่ายังมีช่องว่างถึงความต้องการของตลาดอยู่มากและนับว่ามีโอกาสอีกมากมายที่ผู้สนใจจะเข้าสู่ธุรกิจดังกล่าวได้ ขณะนี้ธุรกิจบริการสุขภาพไทยจำนวนมากเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ทำให้ผู้รับบริการยังไม่เชื่อมั่นในมาตรฐานระบบการบริหารจัดการ ดังนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพ” ให้กับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วม โดยผู้เข้าอบรมได้รับการพัฒนาทักษะความรู้ด้านต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ อาทิ โมเดลธุรกิจ การบริหารจัดการตลาดที่ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาปรับใช้กับธุรกิจ การใช้ช่องทางการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ที่เหมาะสม การรับฟังเรื่องราวประสบการณ์จากเจ้าของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกิจกรรม Workshop สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม กรมฯ เชื่อว่าผู้ที่ผ่านการอบรมจะสามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้แบบมืออาชีพและมีประสิทธิภาพรองรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุของโลกได้ นับเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยที่ผู้สูงอายุทั่วโลกมองไทยเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะเดินทางมาใช้บริการและพำนักในประเทศ เนื่องจากมีสภาพอากาศเอื้ออำนวย ค่าครองชีพไม่สูง และการบริการที่ประทับใจถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของธุรกิจบริการในประเทศไทย ทำให้ได้เปรียบและมีโอกาสมากกว่าประเทศอื่น การอบรมครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างผู้ประกอบการไทยให้เห็นโอกาสและช่วงชิงพื้นที่ทางการตลาดให้ไทยก้าวไปสู่ผู้นำด้านธุรกิจบริการผู้สูงอายุได้ ประกอบกับสามารถขยายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น Home Care, Long stay, Medical Tourism และแฟรนไชส์ เป็นต้น รวมถึงธุรกิจที่ไทยมีความพร้อมอย่างธุรกิจบริการสุขภาพ โดยเฉพาะธุรกิจบริการด้านการแพทย์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานและเป็นที่ยอมรับในนานาชาติจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุไทยเป็นที่รู้จักและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล. – สำนักข่าวไทย