กรุงเทพฯ 1 พ.ย.- ครม.ไฟเขียวหน่วยงานต่างๆ จ้างผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ว่างงาน 7-8 แสนคน ใน 20 จังหวัด ซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่น้ำท่วมได้
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เห็นชอบมาตรการการเงินการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในปี 2560 เพิ่มเติมประกอบด้วย 2 มาตรการ
มาตรการแรกคือ มาตรการจ้างผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ในการปรับปรุงซ่อมแซมที่เกี่ยวกับสาธารณะประโยชน์ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในพื้นที่ 20 จังหวัดซึ่งมีคนว่างงาน และได้ลงทะเบียนไว้ 7-8 แสนคน โดยให้หน่วยงานต่างๆ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ส่วนราชการต่างๆ สามารถพิจารณาจ้างงานผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้วในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี พ. ศ. 2560 ได้ตามความเหมาะสมโดย ประสานขอข้อมูลผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐมายังศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี ยังรับทราบมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่มีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เช่น เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน มาตรการช่วยเหลือผู้เช่าที่ดินราชพัสดุที่ประสบอุทกภัยและภัยพิบัติทางธรรมชาติ มาตรการด้านการเงินที่ดำเนินการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งการให้สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย การพักชำระหนี้ การผ่อนผันและการประนอมหนี้ รวมถึงการบูรณาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการเร่งประสานการชดเชยค่าสินไหมทดแทน กรณีทรัพย์สินที่เอาประกันภัยได้รับความเสียหายเป็นต้น ทั้งนี้ผู้ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆ ผ่านทางหน่วยงานของรัฐและสถาบันการเงินเฉพาะกิจแต่ละแห่งได้โดยตรง
มาตรการที่สองคือ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลร่วมกันบริจาคเงินหรือทรัพย์สินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้มากยิ่งขึ้น คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยผ่านส่วนราชการ กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี องค์การหรือสถานสาธารณกุศล บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมสรรพากร ในระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ให้สามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อน รายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากสิทธิการหักรายจ่ายตามปกติอีกเป็นจำนวนร้อยละ 50. – สำนักข่าวไทย