กรุงเทพฯ 31 ต.ค. – ขสมก.-รฟท. ยืนยันความพร้อมให้บริการหักค่าโดยสารผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะดีเดย์ในวันพรุ่งนี้
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการแทนผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยว่า ขสมก.ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชน. สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเริ่มให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลสามารถใช้บริการรถเมล์โดยสารโดยหักค่าเดินทางภายในบัตรคนละ 500 บาทได้ โดยขณะนี้ยืนยันถึงความพร้อมที่จะให้บริการโดยในส่วนของ ขสมก. ได้มีการติดตั้งเครื่อง EDC แล้วจำนวน 100 คันและเป็นเครื่องหักเงินแบบโมบายอีกจำนวน 250 คันและภายในสองสัปดาห์ข้างหน้าก็จะมีการติดตั้งให้แล้วเสร็จอีกจำนวน 250 คัน รวม 600 คัน โดยในระหว่างนี้ผู้ใช้บริการ ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับรถเมล์ที่ยังไม่มีการติดตั้ง EDC พนักงานเก็บค่าโดยสารก็จะทำการจดบันทึกไว้ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดแม้จะมีการใช้เงินค่าเดินทางเกินกว่าที่ได้รับในแต่ละเดือนไปบ้าง เนื่องจากวงเงินภายในบัตร จะใช้บริการได้ ภายในเดือนนั้นๆ ไม่มีการทบยอดเงินภายในบัตรไปใช้ในเดือนต่อไปแต่อย่างใด
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยรฟท. เปิดเผยว่าสำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทยมีความพร้อมที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเริ่มใช้บริการรถไฟตามที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป โดยขณะนี้ทราบว่าเงินที่จะช่วยเหลือผู้ใช้บริการคนละ 500 บาทนั้นได้มีการโอนเงินเข้าสู่ระบบและจะสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป – สำนักข่าวไทย
สำหรับเครื่องตัดเงินภายในบัตรหรือ EDC นั้น การรถไฟได้มีการติดตั้งจำนวน 444 สถานีเป็นที่เรียบร้อยจำนวน 532 เครื่อง เนื่องจากบางสถานีซึ่งเป็นสถานีใหญ่พอจะมีการติดตั้งมากกว่าหนึ่งเครื่อง เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้บริการ
ทั้งนี้ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทยเห็นว่าการเริ่มต้นให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถได้รับความช่วยเหลือค่าโดยสารผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากจะส่งผลดีต่อผู้ใช้บริการแล้วในส่วนของการรถไฟ เห็นว่า จะเกิดประโยชน์ทั้งในแง่ที่โครงการ สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้ตรงเป้าหมาย รวมทั้งช่วยเรื่องของกระแสเงินสดให้ทุกสถานีสามารถหักเงินผ่านบัตรและมีกระแสเงินสดเข้า ซึ่งจะช่วยให้รถไฟมีผู้ใช้บริการสม่ำเสมอ และเพิ่มขึ้น กระจายตามสถานีต่างๆในแต่ละเดือนด้วย
นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ บขส. ให้บริการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงที่ผ่านมาไม่พบว่ามีปัญหาแต่อย่างใดโดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 600-700 คน
ทั้งนี้ที่ผ่านมา บขส.ได้ประสานธนาคารกรุงไทย ติดตั้งเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ (EDC) ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง (จตุจักร, เอกมัย,ถนนบรมราชชนนี) และที่ทำการสถานีเดินรถของ บขส. ทั่วประเทศ รวม 121 จุด และขณะนี้บขส.อยู่ระหว่างที่จะเจรจากับกรมบัญชีกลางเพื่อขอขยายการติดตั้ง เครื่อง EDC ยังสถานีอื่นให้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองซื้อตั๋วโดยสารแก่ผู้ถือบัตร
โดย บขส ย้ำอีกครั้ง สำหรับเงื่อนไขของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการใช้สิทธิโดยสารรถของ บขส. มีดังนี้ 1.ยื่นบัตรแสดงตนในการซื้อตั๋วโดยสารและต้องเป็นผู้เดินทางเองเท่านั้น 2.สามารถซื้อตั๋วรถโดยสาร บขส. ภายในวงเงิน 500 บาทต่อเดือน กรณีที่ค่าโดยสารเกินวงเงินที่ได้รับต้องจ่ายส่วนต่างเป็นเงินสดเท่านั้น 3.สามารถเดินทางไปกับรถโดยสาร บขส. ได้ทุกมาตรฐาน ทุกเส้นทาง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ครอบคลุมค่าเดินทางระบบขนส่งที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับหลักเกณฑ์ในการจัดทำโครงการรถเมล์ฟรีและรถไฟฟรีในอดีตที่ให้บริการกับประชาชนมากกว่า 10 ปี โดยโครงการในอดีตนั้นในแต่ละเดือน ภาครัฐต้องจ่ายเงินชดเชยในโครงการดังกล่าวในส่วนของรถเมล์ฟรีเดือนละ200-300 ล้านบาท และรถไฟฟรี. อีกเดือนละประมาณกว่า 80 ล้านบาท โดยโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้นถือเป็นการปรับหลักเกณฑ์เพื่อให้เข้าถึงผู้มีรายได้น้อยมากที่สุด