ปราจีนบุรี 1 พ.ค.-ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ตั้งโต๊ะชี้แจงคำสั่งแต่งตั้งคนจีนนั่งที่ปรึกษาฯ หวังประชาชนจะให้อภัย ด้านประธานหอการค้าจังหวัด ลาออกรับผิดชอบ
จากกรณีสื่ออนไลน์ มีการโพสต์ข้อความพร้อมหนังสือราชการแต่งตั้งชายชาวจีน เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ทำให้ถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้ มีการตั้งคำถาม ว่า ไม่มีคนไทย ที่มีความสามารถแล้วหรือ ถึงต้องให้ชาวจีนมานั่งใกล้ผู้ว่าฯ อีกทั้งตำแหน่งดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด ชาวต่างชาติจะมองถึงประโยชน์ของชาวไทยหรือของใคร และหากเป็นประเทศอื่น ชาวต่างชาติจะมีสิทธิดำรงตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ จน นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ได้ออกหนังสือ เพื่อยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาชาวจีนคนดังกล่าวออกไป
ล่าสุด นายวีระพันธ์ ได้ตั้งโต๊ะชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่คำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี แต่งตั้งให้ Mr. Juncheng Zhu (จู เจิ้น เฉิน) ชาวจีน เป็นที่ปรึกษา เป็นเพียงการให้กำลังใจผู้ร่วมงานเท่านั้น ไม่มีประโยชน์อื่นใด และเมื่อพบว่ามีความไม่เหมาะสม จึงได้มีการยกเลิกคำสั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขอรับรองว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก และหวังว่าประชาชนจะให้อภัย
นอกจากนี้ผู้ว่าฯ ยังได้ออกหนังสือชี้แจงประกอบกรณีการตั้งแต่งที่ปรึกษาชาวจีนด้วย โดยมีข้อความดังนี้ 1.จังหวัดปราจีนบุรีได้รับการประสานจากหอการค้า, สภาอุตสาหกรรม, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และภาคเอกชนในพื้นที่เรื่องการพัฒนา ความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง ระหว่างนครฉางชุน มณฑลจี๋หลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน และเมืองตงกว่าน มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเมืองที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในด้าน การเกษตร การท่องเที่ยว และการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ที่สำคัญของสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงทำให้ต้องมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และสื่อสารภาษาไทยและภาษาจีนได้อย่างดี เพื่อทำหน้าที่ เป็นสื่อกลางประสานความสัมพันธ์ จังหวัดปราจีนบุรี จึงแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าฯ โดยมีการแต่งตั้ง Mr.Juncheng Zhu (จู เจิ้น เฉิน) ผู้บริหารบริษัทปราจีน ลาเท็กซ์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีด้วย
2.จังหวัดปราจีนบุรีกำลังเตรียมการรองรับการพัฒนาการเป็นเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) รวมทั้งการลงทุนจากต่างชาติ ภาคเอกชนเสนอให้มีการแต่งตั้งชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ปรึกษาในการ ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อรองรับการพัฒนาจังหวัดฯ ซึ่งไม่ได้มีเจตนาให้เกิดความเข้าใจ ที่คลาดเคลื่อน
3.จากการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีดังกล่าว พบว่า เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ของพี่น้องประชาชนในสื่อต่างๆ จังหวัดฯ จึงได้มีคำสั่งลงวันที่ 29 เมษายน 2568 เรื่องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าฯ ดังกลาว และได้มีหนังสือรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เรียบร้อยแล้ว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พูดถึงกรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ว่า สมควรถูกวิจารณ์ เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม กับการแต่งตั้งคนจีน มาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งหลังจากตนได้รับรายงาน ก็ได้ฝากปลัดกระทรวงมหาดไทย ตำหนิไปว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม “เป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมีวุฒิภาวะมากกว่านี้” พร้อมขอโทษประชาชน ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ส่วนจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ไม่ใช่ความผิด แต่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ก็มองว่าการแต่งตั้งที่ปรึกษา “เปลืองกระดาษราชการ” เพราะการปรึกษากัน สามารถใช้วิธีการพูดคุยกันได้
หลังเกิดเหตุการณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามในหนังสือ ด่วนที่สุดที่ เรื่อง การรายงานข้อมูลการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด พร้อมส่งแบบฟอร์มรายงานการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด และรายละเอียดระบุว่า ด้วยกระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการสำรวจข้อมูลการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัด เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลของผู้บริหาร ดังนั้นจึงขอให้จังหวัดรายงานข้อมูลการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดตามแบบฟอร์มที่กำหนด ส่งให้กระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 30 เม.ย. เวลา 16.30 น.
และต่อมาเพจ CSI LA โพสต์ภาพเอกสารอีกฉบับ เป็นเอกสารแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งพบว่า มีการแต่งตั้งทั้งหมด 5 คน หนึ่งในนั้นมี mr.juncheng Zhu (จู เจิ้น เฉิน) และมี นายสมบัติ สิทธิมงคล ประธานหอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งคนนี้ ที่ทางเพจตั้งคำถามว่า ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ใช้หลักเกณฑ์อะไรในการแต่งตั้งที่ปรึกษา โดยเฉพาะในกรณีที่บุคคลนั้นเคยมีประวัติที่สังคมตั้งคำถามมากมาย
ล่าสุด นายสมบัติ สิทธิมงคล ประธานหอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี โพสต์เอกสารในเฟซบุ๊ก ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี มุ่งหวังสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีระหว่างจังหวัดปราจีนบุรีกับมณฑลหนึ่งของจีน ตามวัตถุประสงค์ในหนังสือฉบับนี้เท่านั้นครับ เพียงหวังอาจเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการขับเคลื่อนจังหวัดปราจีนบุรีไปในทิศทางที่ดี เมื่อเกิดประเด็นและข้อห่วงใยดังกล่าว เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อการนำเสนอและทำให้ชาวจังหวัดปราจีนบุรีเกิดความไม่สบายใจและห่วงใยในผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดต่อจังหวัดปราจีนบุรีได้ ผมขอประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดปราจีนบุรีนับจากบัดนี้ เป็นต้นไปครับ”.-สำนักข่าวไทย