กรุงเทพฯ 8 เม.ย.- ผู้ประกอบโครงสร้างเหล็ก สัญชาติญี่ปุ่น ไม่ฟันธงสาเหตุตึก สตง.ถล่ม ชี้ตึกถล่มไม่ได้เกิดจากเหล็กเพียงอย่างเดียว ตั้งข้อสังเกตอาจเกิดจากการออกแบบ และการก่อสร้าง ยืนยันไม่มีโครงสร้างเหล็กจากบริษัทใช้ในตึก สตง.ถล่ม
นายไนยวน ชิ ประธานกรรมการบริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MCS กล่าวถึงสาเหตุที่อาคาร สตง. ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และสอบสวนหาสาเหตุโดยละเอียด แต่เบื้องต้นได้ตั้งข้อสังเกตสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตึกถล่มมีได้ 2 อย่างคือ การออกแบบไม่ถูกต้อง และการก่อสร้างไม่ถูกต้อง
นายไนยวน ชิ ระบุว่า สาเหตุที่ตึกถล่มอาจไม่ได้เกิดจากเหล็กเพียงอย่างเดียว เพราะในการก่อสร้างอาคารจะต้องใช้วัสดุอื่นๆ ร่วมด้วย ทั้ง คอนกรีต ปูน รวมถึงคนที่ก่อสร้างเองก็อาจจะไม่ได้ทำตามที่ออกแบบไว้ก็เป็นได้ ที่สำคัญเหล็กแต่ละประเภทมีมารตรฐานแตกต่างกัน และนอกจากนี้ แต่ละประเทศก็กำหนดมาตรฐานเหล็กแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ เช่น ประเทศญี่ปุ่นที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวบ่อยมาตรฐานเหล็กก็อาจจะสูงกว่าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะความเหนียว ความยืดหยุ่น ส่วนโครงสร้างเหล็กที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นจะต้องรับแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวที่ 6.8 ริกเตอร์ อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ประเทศไทย อาจจะต้องออกแบบโครงสร้างอาคาร โดยใช้โครงสร้างเหล็กมากขึ้น เพื่อให้ทนต่อการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างในประเทศไทยใช้โครงสร้างคอนกรีต เนื่องจากราคาประหยัดกว่าโครงสร้างเหล็ก พร้อมเสนอรัฐบาลปรับมาตรฐานการออกแบบการก่อสร้างอาคารให้สามารถรองรับกับการเกิดแผ่นดินไหวไว้ด้วย
และยืนยันการก่อสร้างอาคาร สตง. ไม่ได้ใช้เหล็กโครงจากบริษัท และบริษัทเองก็ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากใช้เหล็กมาตรฐาน นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มาตัดและประกอบเป็นโครงสร้างเหล็ก ส่งไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นกว่า 90% อีกส่วนหนึ่งส่งไปยังประเทศจีน ส่วนอาคารในประเทศไทยที่ใช้โครงสร้างเหล็กจากบริษัท เช่น สยามพารากอน สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารตลาดหลักทรัพย์ (หลังใหม่) รวมถึง O-NES Tower ส่วนมาตรการขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกาไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกโครงสร้างเหล็กของบริษัท เนื่องจากไม่มีการส่งออกไปยังสหรัฐ. – 517-สำนักข่าวไทย