รัฐสภา 27 มี.ค.-“สรวงศ์” ซัด “สื่ออาวุโส” ปล่อยโผปรับ ครม. ยันไม่กังวล หวั่นกระทบข้าราชการ วอนนึกถึงประโยชน์บ้านเมือง อย่าสนุกปากอย่างเดียว ปัดทาบงูเห่าเข้าเพื่อไทย โยนเป็นเรื่องภายในไทยสร้างไทย
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ สส.พรรคประชาชน โพสต์ภาพแชทถูกติดต่อซื้อตัวเป็นงูเห่าว่า จากที่ติดตามข่าวเห็นว่า ไม่ได้มาจากพรรคที่มี สส. และไม่ได้เป็นพรรคที่มีตัวตนอยู่ด้วยซ้ำ พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำแบบนี้เรียนตรงตรงว่าการที่จะเอา 10 เสียงไม่ได้มีประโยชน์อะไรเรามั่นใจอยู่แล้ว และการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลักฐานจะต้องหนักแน่นกว่านี้เยอะ การออกมาว่าแชทหลุดตามสามัญสำนึกและหลักความจริงไม่น่าเป็นไปได้ แต่ไม่เป็นไรหากมีการทาบทามกันสิ่งที่ยืนยันได้คือไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทยแน่นอน ส่วนการที่ได้สส.เพิ่ม ก็อาจจะมาเพิ่มสัดส่วนรัฐมนตรีด้วยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่าตนไม่ทราบและไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน
พร้อมกันนี้นายสรวงศ์ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม.
“หากพูดถึงเรื่องนี้ตนขอฝากไปด้วยฝากสื่อมวลชนด้วยความมเคารพ เมื่อเช้าดูข่าว ส่วนตัวแล้วมีชื่อ ซึ่งเป็นสื่อผู้หลักผู้ใหญ่ การออกมาแบบนี้อย่างแรกตนไม่ได้กังวลทำงานปกติ แต่สองการที่จะออกข่าวโผ ครม. หรือปรับ ครม. มีผลกระทบกับการทำงานของข้าราชการ ดังนั้นการจะออกข่าวอะไรแบบนี้มาช่วยคิดถึงประโยชน์ความบ้านเมืองนิดนึง ไม่ใช่ว่าได้ข่าวอะไรมาก็โพล่งออกมา บางสิ่งบางอย่างพอมันไม่เป็นความจริงมันมีผลกับการทำงานของข้าราชการการสั่งงานก็จะมีความรู้สึกฝากจริงๆว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการสื่อแล้วเนี่ยการจะพูดอะไรหรือการเสนอข่าว ขอให้สำเร็จขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้างอย่าอย่าสนุกปากอย่างเดียว อย่าอย่าคิดว่าตัวเองเสนอข่าวก่อนใครอื่นแล้วจะเด่นกว่าใครอื่นตนขอแค่นี้” นายสรวงศ์ กล่าว
ส่วนประเด็นการปรับภายในของพรรคเพื่อไทย นายสรวงศ์ ยืนยันว่าไม่มีตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ การทำงานของทุกคนก็ต้องผ่านอุปสรรค 3 คนที่มีข่าวออกมาก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ซึ่งนายกฯ ก็บอกพวกเราว่าถ้าจะมีการปรับจะบอกกับเจ้าตัวก่อน และบอกถึงเหตุผลและตนก็ไม่ได้กังวลอะไร อย่างที่นายกฯ บอกอำนาจในการปรับครม.อยู่ที่นายกคนเดียว ส่วนมองว่าสื่อที่ได้ข้อมูลมานำมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อขย่มหรือเป็นข่าวปล่อยหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่อยากคิดอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วไม่ว่าจะได้ข่าวมาจากไหน หรือจะได้มาอย่างไรก็แล้วแต่ในเมื่อเป็นสื่อแล้วการออกข่าวแบบนี้ตนก็กังวลใจเพราะทุกครั้ง ข่าวการปรับครม. หรือเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีมีผลจริงๆต่อการทำงาน นโยบายต่างๆที่เราปล่อยไปคนก็คิดได้ทำไปแล้วจะอยู่อีกกี่นาน จะอยู่ไหม และถ้าไม่อยู่จะทำอย่างไร ซึ่งขณะนี้ตนยังทำงานอยู่และมนตรีทุกคนยังทำงานอยู่ เพราะฉะนั้นอยากให้คิดนิดนึง
ส่วนในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทยต้องยืนการจำนวนที่นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีเท่าเดิมกับนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขอพูดตรงตรงว่าเรื่องโควตาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
นายสรวงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสัเกตว่าก่รที่สส.จากพรรคไทยสร้างไทย ยกมือสนับสนุนนายกรัฐมนตรี เป็นการทอดไมตรีเพื่อจะมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่า เรื่องการโหวตเป็นเรื่องภายในของพรรคเขาขอไม่ก้าวล่วง ส่วนจะมาอยู่พรรคเราหรือไปอยู่พรรคไหนยังเป็นเรื่องนอกเหนืออยู่ขอให้เขาจัดการภายในพรรคก่อนยืนยันว่ามีการพูดคุยกัน ซึ่งตนได้พูดคุยกับหนึ่งในสส.พรรคไทยสร้างไทยก็ในกรรมการเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นการชักชวนเข้ามาอยู่หรือเขามาขออยู่ยังไม่มี
ส่วนกรณีที่นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.พรรคไทยก้าวหน้า ที่ลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เป็นเพราะอยากจะมาร่วมงานกับรัฐบาลหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก และยืนยันว่าเราไม่ได้ทาบทามอะไรเลย เราทาบทามแต่ที่เราเห็นในข่าว ตนได้รับเกียรติและได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาประชุมกันก่อนลงมติว่าเรายังไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งหมดทั้งปวงมีแค่นั้นเอง ส่วนเขาจะเข้ามาขออยู่ด้วยหรือไม่นั้นขออย่าไปคิดขนาดนั้น เพราะการโหวตเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. แม้แต่พรรคก็มีมติไม่ได้ซึ่งก็เป็นวิจารณญาณของแต่ละคน.-312.-สำนักข่าวไทย