รัฐสภา 25 มี.ค.-นายกฯ ยืนยันที่ดิน “เทมส์ วัลเล่ย์ เขาใหญ่” ได้มาชอบโดยกฎหมาย บอกดิจิทัลวอลเล็ตไม่ตรงปก แต่ตรงเป้าแน่นอน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงฝ่ายค้าน ว่า ที่บอกว่าอยากให้ตนเองพูดให้ยาวๆ นั้น ตนอยากชี้แจงในสาระสำคัญและใช้เวลาของสภาให้คุ้มค่า ส่วนที่หลายคนอภิปรายถึงรัฐบาลชุดอื่น ตนก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ส่วนที่สมาชิกอภิปรายในเรื่องของการครอบครองที่ดินของโรงแรมเทมส์ วัลเล่ย์ เขาใหญ่ซึ่งเมื่อเช้านี้มีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พูดในรายละเอียดไปบ้างแล้วและมีกรมที่ดินได้ชี้แจงในเรื่องการออกโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวว่าเป็นไปตามกฏหมายและครอบครัวของตนเองทำทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมายทั้งหมด เช่นเดียวกับผู้ประกอบการอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่เขาใหญ่ด้วย ยืนยันว่าการครอบครองที่ดิน การประกอบกิจการ การทำธุรกรรมใดๆ ของครอบครัวและกิจการของตนเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านอภิปรายในเรื่องของคอลเซ็นเตอร์ เรื่องนี้ได้ปฏิบัติการและทำไปไกลกว่านั้นและแก้ปัญหาได้ไปไกลมากพอสมควร และทำต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีการประสานมือ ประสานงาน ประสานกำลังกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นประเทศเมียนมา จีน กัมพูชาที่ช่วยกัน การจับการปราบการตัดไฟ โดยในเรื่องของการตัดน้ำมัน ตัดสัญญาณมีคำชมจากประเทศจีนทันทีที่ตัวเองได้ไปเจอ ว่าได้ตัดสินใจเด็ดขาดมาก และได้ ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ซึ่งได้รับคำชมจากนายสี จิ้นผิง เป็นที่น่าภาคภูมิใจของเราทุกคน ซึ่งฝ่ายจีนมีการสนับสนุนข้อมูล และการข่าวต่างๆ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดมาจากความร่วมมือของทุกประเทศที่เราขอความร่วมมือซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านและเกิดวิกฤตที่คล้ายกัน ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในเรื่องของการซีลชายแดน ซึ่งถ้าเราทำของเราเดี่ยวๆ ก็จะเกิดความขัดแย้งและได้ผลอย่างดีมากๆ ที่ได้ทำงานกันเป็นทีม หวังว่าฝ่ายค้านจะเข้าใจการทำงานทีมเวิร์คและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ กระทรวงดีอี ได้จัดตั้งศูนย์ AOC 1441 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 100 คู่สายและระงับบัญชีม้าไปแล้ว 1.92 ล้านบัญชี รวมทั้ง มีระบบติดตามบัญชีที่มีธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ
ส่วนเรื่องซิมม้าได้กวาดล้างไปแล้ว 2.4 ล้านเลขหมาย และระงับซิมต้องสงสัยที่มีการใช้งานผิดปกติ 2.8 ล้านเลขหมาย และตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้โมบายแบงค์กิ้งที่ ลงทะเบียนหลังวันที่ 1 มกราคม 68
ตั้งแต่มีมาตรการในการตัดน้ำตัดไฟสัญญาณอินเตอร์เน็ตและเสาสัญญาณ ซึ่งสถิติการรับแจ้งคดีอาชญากรรมออนไลน์ลดลงไป 20% และ คดีคอลเซ็นเตอร์ลดลงไป 67% ความเสียหายที่เกิดกับประชาชน ลดลงถึง 50% จากวันละ 100 ล้านบาท เหลือ 50 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจรัฐบาลจะทำให้เข้มข้นมากขึ้น ขณะนี้สิ่งที่กำลังทำและเร่งรัดอยู่คือ ร่าง พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของรัฐบาล ซึ่งกำลังเผชิญมรสุมการคัดค้านจากหลายองค์กร ซึ่งรัฐบาลก็รับฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสิ่งที่เป็นนโยบายใหม่ๆ เกิดขึ้นครั้งแรก เราก็คุ้นชิน เพราะเราได้ริเริ่มนโยบายใหม่ๆ รวมถึงเป้าหมายของรัฐบาลคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ต้องจ่ายเงินสด แม้ทำให้ถูกมองว่าไม่ตรงปก แต่ยืนยันว่าตรงเป้าแน่นอน ซึ่งข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจ รัฐมนตรีได้พูดไปแล้ว ว่าเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างไร และในส่วนของการจ่ายเงินรอบที่สาม ซึ่งกำลังจะมาถึง ที่เป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในการพัฒนาระบบ เริ่มต้นจากเยาวชนซึ่งมีพลังในการบริโภคและมีความตื่นตัวทางเทคโนโลยีเรียนรู้รวดเร็ว เป้าหมายระยะยาวของนโยบายนี้คือการยกระดับสังคมไทยเป็นสังคมดิจิทัลซึ่งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าภายในหนึ่งวาระของรัฐบาลนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรม ปกก็ตรง เป้าก็โดน.-315.-สำนักข่าวไทย