กทม. 18 มี.ค.-น้องสาวและแม่ของอดีต ผกก.โจ้ เข้าให้ข้อมูลกับอัยการเพิ่ม บอกเพียงทางบ้านอยากเข้าทางธรรมแล้ว แต่พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย
ความคืบหน้าการเสียชีวิตคดีของพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม ล่าสุดนางสาวธนัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ , มารดาของอดีตผู้กำกับโจ้ และนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับอัยการ ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนบรมราชชนนี โดยวันนี้ทั้งคู่แต่งกายด้วยชุดสีดำ มีสีหน้าโศกเศร้า
นางสาวธนัญญา ให้ข้อมูลเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้มาให้ปากคำกับท่านอัยการ เมื่อถามว่ายังกังวลกับเรื่องคดีของพี่ชายอยู่หรือไม่ นางสาวธนัญญา ตอบว่า ตอนนี้ทางบ้านอยากเข้าทางธรรมแล้ว และก็พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย
ส่วนเมื่อวานนี้ที่ทางคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ประชุมและมีผลสรุปเบื้องต้นในส่วนของประเด็นของการเสียชีวิต ซึ่งต้องชะลอไว้ก่อน เพราะยังต้องรอผลชันสูตรของทั้ง 2 โรงพยาบาล รวมถึงผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนพิจารณาต่อไป โดยทางครอบครัวมีความเห็นอย่างไรนั้น นางสาวธนัญญา ตอบว่า ก็ขึ้นอยู่กับท่าน ว่าพยานหลักฐานเป็นอย่างไร
ขณะที่ในส่วนของประเด็นเรื่องถูกทำร้ายร่างกายในเรือนจำฯ เบื้องต้นพบว่ามีมูลและเข้าข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ นั้น นางสาวธนัญญา ตอบว่า อยู่ในกระบวนการตรวจสอบขอลงไม่ลงรายละเอียด
ส่วนร่างของอดีตผู้กำกับโจ้ ทางครอบครัวจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะฌาปนกิจหรือไม่นั้น เบื้องต้นทางครอบครัวได้พูดคุยกันแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร หากได้วันแล้วจะแจ้งอีกครั้ง
ด้านนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความส่วนตัว ระบุเพียงสั้นๆ ถึงผลชันสูตรที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ว่า ตอนนี้ผลชันสูตร ทางเรายังไม่ได้รับแจ้งมา ให้รอที่ทางพนักงานสอบสวน
ส่วนความคืบหน้าคดีพลตำรวจตรีเจษฎา สวยสม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทุกประเด็นครบถ้วนแล้ว และอยู่ระหว่างรวบรวมให้กับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงฯ โดยเฉพาะอัยการที่เป็นประธานของชุดคดีนี้ ก่อนจะสรุปว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่ เบื้องต้นมีผลทางนิติวิทยาศาสตร์บางอย่างได้ออกมาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นรายละเอียดในคดี
ส่วนผลชันสูตรพลิกศพ และคลิปสนทนาที่คุยระหว่างการเยี่ยมญาติ รวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังไม่ส่งกลับมา โดยในการตรวจสอบคลิปเสียงจะต้องตรวจสอบว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่ หรือผ่านการตัดต่อดัดแปลงมาหรือไม่
ในส่วนของคดีทำร้ายร่างกายนั้น ได้มีการเข้าไปสอบปากคำทุกคนที่เกี่ยวข้องภายในเรือนจำฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางอัยการได้เรียกให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เข้าให้ข้อมูลเช่นเดียวกัน.-416.-สำนักข่าวไทย