กมธ.มั่นคงฯ ถกผลกระทบส่ง “อุยกูร์” กลับจีน

รัฐสภา 6 มี.ค.-กมธ.มั่นคงฯ ถกผลกระทบส่ง “อุยกูร์” กลับจีน “โรม” ซัดเดือด บอกแกว่งปากหาเสี้ยน ไปกล่าวหาประเทศอื่นไม่แน่วแน่รับตัว มองจะทำให้ปัญหาเลวร้ายขึ้น ยันขอกล้อง CCTV แน่ เชื่อมีเรคคอร์ดไว้ สงสัยขนสื่อไป “ซินเจียง” จะมีอิสระหรือ ด้าน “ทูตรัศม์” การันตีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ยันทำตาม กม.ระหว่างประเทศ

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร​ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ นายมาริษ​ เสงี่ยม​พงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รวมไปถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ มาชี้แจงเรื่องการส่งอุยกูร์กลับประเทศจีน​ แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับความร่วมมือ มีเพียงนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ​ พลตำรวจตรีปรัชญา ประสานสุข​ รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง​ มาชี้แจง​


นายรังสิมันต์​ ย้ำว่า เรื่องการส่งอุยกูร์​ กลับจีน ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล จะถือเป็นการละเมินอำนาจศาล​หรือไม่​ และมีพ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานและการอุ้มหาย บังคับภายในประเทศด้วย​ ดังนั้น​ เรื่องนี้อาจจะกระทบต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง​ อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องพิจารณา คือผลกระทบกับประเทศไทย​ เพราะตอนนี้เริ่มมีสถานทูตหลายประเทศประกาศแจ้งเตือน​คนของประเทศเขาที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย​ ให้ระมัดระวัง​ ซึ่งมันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว จึงต้องถามถึงมาตรการในการรับมือ​ ยอมรับว่าวันนี้เราเอาคนอุยกูร์กลับมา​ เป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่สามารถเริ่มต้นอะไรใหม่ได้​ แต่สิ่งที่ต้องบริหารกันต่อไปคือ​ ผลกระทบที่เกิดขึ้น​ ทางด้านสังคมและทางด้านของการก่อการร้าย​ รวมไปถึงด้านมิติเศรษฐกิจต่างๆ และสิ่งสำคัญคือเราอยากรู้ว่า เราได้อะไรจากการทำเรื่องนี้ เพราะราคาที่ประเทศไทยต้องจ่ายมันเป็นราคาที่แพง

เมื่อ​ถามถึงการเรียกร้องให้มีการเปิดกล้องวงจรปิดระหว่างส่งตัว คณะกรรมาธิการ​ จะขอดูด้วยหรือไม่​ นายรังสิมันต์​ กล่าวว่า​ ยืนยันว่าจะต้องมีการพูดคุยกันในกรรมาธิการเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดด้วย​ เพื่อที่จะได้ดูพฤติกรรมระหว่างการส่งตัวว่าเขายินยอมที่จะไปจริงหรือไม่​ ตนเชื่อว่ามีแน่นอน แต่อยู่ที่ว่าจะให้หรือไม่​ และตนเชื่อว่านี่ไม่ใช่การส่งตัวครั้งแรก​ ผู้แทนที่เดินทางไปดู ได้เข้าไปดู 109 คน​ ก่อนหน้านี้หรือไม่ว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร​ เพราะตนเชื่อว่าหากจะดูความเป็นอยู่ของ 48 คนที่ส่งไปล่าสุด จะเป็นอย่างไรก็ต้องไปดู 109 คนที่ถูกส่งไปก่อนหน้านี้​ ตอนนี้มีภาพออกมาว่าเขาได้เจอครอบครัวเป็นภาพอันหวานชื่น​ แต่ตนสังเกตหน้าตาของคนที่เดินทางกลับดูไม่เต็มใจ​ และหน้าตาดูเศร้าหมองไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้น​ หลายๆอย่างมันมีพิรุธ​ รวมถึงจะต้องมีการถามถึงหนังสือสัญญาว่า​ สรุปแล้วมีจริงหรือไม่และหน้าตาเป็นอย่างไร​


ส่วนที่จะมีการพาสื่อมวลชนไทยไปดูความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์​ 48 คน​ ดูแล้วมันสมเหตุสมผลหรือไม่​ นายรังสิมันต์​ โรม​ กล่าวว่า เวลาไปดูแบบนั้น​ มันไม่ใช่วิธีการที่นำไปสู่การตรวจสอบที่แท้จริง เพราะว่าถ้าจะมีการตรวจสอบที่แท้จริงต้องให้อิสระ แต่ตนไม่มั่นใจว่าสื่อมวลชนที่จะไปครั้งนี้จะมีอิสระหรือไม่​

ส่วนเอกสารที่ทางจีนการันตีถึงความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ เพียงพอหรือไม่​ นายรังสิมันต์​ กล่าวว่า​ความปลอดภัยต้องดูในหลายบริบท ไม่ใช่ดูแค่จากคำสัญญาเท่านั้น​ เพราะชีวิตคนเวลามันเกิดอะไรไปแล้ว​ มันเอาคืนไม่ได้​ และ บริบทหลายอย่างทั้งเรื่องการแอบส่งไปยามวิกาล การติดสติ๊กเกอร์ดำ​ มันทำให้เราไม่มั่นใจ ว่ามันเป็นการทำเพื่อคนอุยกูร์จริงๆ​

เมื่อถามว่าเรื่องประเทศที่ 3 สรุปแล้วมีความประสงค์จริงหรือไม่​ นายรังสิมันต์​​ กล่าวว่า​ ตั้งแต่สภาชุดที่แล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่ในคณะกรรมการกฎหมาย และได้พูดคุยกับ สมช. ยืนยันว่ามีประเทศที่ 3 ประสงค์ที่จะรับชาวอุยกูร์​ แต่เราไม่สามารถจะส่งไปได้ เพราะเรากังวลความสัมพันธ์กับจีน​


“ไม่ต้องไปโทษคนอื่น ว่าเขาไม่แน่วแน่ เพราะการโทษแบบนั้นเป็นการแกว่งปากหาเสี้ยน และการไปตำหนิประเทศอื่นไม่แน่วแน่​แก้ไข​ ไม่แน่วแน่ที่จะรับ ผมงงมากว่าการพูดของคุณเป็นอะไรไปแล้ว​ คุณจะไปทะเลาะกับคนอื่นทำไม​ ก็ตอบกันตรงๆว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่คุณกังวลว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน​ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้​ มันมีวิธีการอย่างไร​ในการแก้ไข​ แต่คุณจะไปโทษประเทศอื่น​ ทั้งสหรัฐอเมริกา​ ตุรกี​ ไม่แน่วแน่เพียงพอ​ มันจะยิ่งทำให้เรื่องนี้เลวร้ายยิ่งขึ้น มันทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว

จากนั้นนายรังสิมันต์​ ได้เปิดการประชุม​ โดยนายรัศม์​ กล่าวชี้แจงว่า​ การที่จีนให้คำมั่นกับทางการไทยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เรามี ทั้งในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เรามีกับจีนและการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนชาวไทย รวมทั้งเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับชาวอุยกูร์เหล่านั้น ซึ่งทั้งหมดได้ทำไปบนพื้นฐานของกฎหมาย ทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

จับครบ 10 คนแล้ว แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บ

จับครบตามหมายจับ 10 คน แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บก่อนวันบลูเดย์ ทั้งหมดยังปากแข็งให้การภาคเสธ ตำรวจพบพฤติการณ์วางแผนครึ่งเดือน ถอดเสื้อมือยิง มีรอยแผลเป็นฟันเฟือง 4 อัน

จับแล้ว! มือยิง นศ.อุเทนก่อนวันบลูเดย์ พบทำเป็นขบวนการ

จับแล้ว! กลุ่มมือยิง นศ.อุเทนฯ ก่อนวันบลูเดย์ พบพฤติการณ์ทำงานเป็นทีม มีคนชี้เป้าให้ยิง มีคนพาแยกย้ายหลบหนี เร่งล่าอีก 1 คาดได้ตัวเร็วๆนี้

ข่าวแนะนำ

ล่าคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ถล่มป้อมรถไฟยะลา เจ็บ 6

คนร้ายป่วน จ.ยะลา 2 รอบ ขว้างไปป์บอมบ์ ชาวบ้านเจ็บระนาว ก่อนวางระเบิดซ้ำหน้าวัดขณะจัดงานบวช ผู้การยะลา สั่งยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ขั้นสูงสุด ไล่ล่าคนร้าย

คุมตัว 2 แม่ลูก ทำแผนฆ่าสามีใหม่ ลูกชายรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ตำรวจคุมตัวสองแม่ลูกทำแผนฆ่าสามีใหม่ สารภาพรัดคอปลิดชีพ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนแรงจูงใจก่อเหตุ ลูกชายยอมรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้

นางสงกรานต์ปี 68 นาม “ทุงสะเทวี” ธัญญาหาร-ประชาชนสุขสมบูรณ์

ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ ปี 2568 วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี