รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตาก 3 มี.ค. – ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย

ความคืบหน้าคนร้ายแต่งชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด จ.ตาก โดยคนร้ายสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ลงมืออย่างใจเย็นด้วยการชักปืนพกสั้นออกมาข่มขู่พนักงานและประชาชนที่อยู่ในร้านนับสิบคน ก่อนกระโดดข้ามตู้ทองเข้าไปหยิบทองคำ 3 ถาด น้ำหนักรวมประมาณ 102 บาท มูลค่ากว่า 4.7 ล้านบาท ใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมา ก่อนวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถหน้าห้างฯ หลบหนีไป โดยคนร้ายใช้เวลาปฏิบัติการไม่ถึง 1 นาที เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (2 มี.ค.)

วันนี้ (3 มี.ค.) พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รองผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 6 เรียกประชุมชุดสืบสวน เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้าย ภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ ชุดสืบสวนได้เข้าไปตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมสอบปากคำพนักงานภายในห้างทองเพิ่มเติม ทำให้ทราบลักษณะคนร้ายมากยิ่งขึ้น

จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมสูงราว 165-170 ซม. สวมหมวกนิรภัยสีดำแบบเต็มใบอำพรางใบหน้ามิดชิด สวมเสื้อชุดพนักงานส่งอาหารหรือไรเดอร์สีเขียว สวมเสื้อซับในคล้ายเสื้อลายพรางสีเขียว สวมกางเกงยีนส์ขายาวคล้ายทรงรัดรูปสีดำ สวมรองเท้าสีดำ เชือกมัดรองเท้าสีขาว และด้านหลังคนร้ายสะพายกระเป๋าเป้สีดำขนาดใหญ่

คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์แบบระบบเกียร์ออโต้ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาคนเดียว ส่วนทิศทางการหลบหนี คนร้ายขี่รถออกนอกตัวเมืองแม่สอด แต่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ สามารถจับภาพการหลบหนีไว้ได้ครบถ้วน เนื่องจากคนร้ายขี่รถหลบหนีไปแบบใจเย็น และคาดว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากทราบเส้นทางลัดหลบหนีเป็นอย่างดี

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทองแล้ว คาดคนในพื้นที่
พล.ต.ต.ระวีพรรษ กล่าวหลังประชุมว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่าคนร้ายมีเพียง 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานทั้งคลิปวงจรปิด และหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ภายในห้างทองเกิดเหตุ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ขณะนี้ตำรวจพอจะทราบเบาะแสและกลุ่มเป้าหมายแล้ว อยู่ระหว่างการติดตาม คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในอีกไม่นาน

ทั้งนี้ จากแนวทางสืบสวนคาดว่าคนร้ายรายนี้ยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด โดยตำรวจฝ่ายสืบสวนหลายชุดเร่งไล่ล่าโจรชิงทองรายนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมประสานความร่วมมือทางการข่าว ระหว่างชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อป้องกันคนร้ายหลบหนีข้ามแนวชายแดน ขณะเดียวกันยังสั่งเพิ่มการคุมเข้มการตรวจร้านทองและห้างสรรพสินค้าทุกแห่งใน อ.แม่สอด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย.-สำนักข่าวไทย