พฤกษาฯ หนุนผ่อนปรนมาตรการ LTV อีก 2-3 ปี เตรียมเสนอคลังไม่เกิน มี.ค.นี้

กรุงเทพฯ 3 มี.ค. – พฤกษา โฮลดิ้ง หนุนผ่อนปรนมาตรการ LTV อีก 2-3 ปี ขยายถึงบ้านหลัง 2-3 เผย 7 สมาคมอสังหาฯ เตรียมเสนอคลังไม่เกินปลายเดือน มี.ค.นี้ ยันไม่มีโครงการซื้อหุ้นคืน ยังถือหุ้นใหญ่ พร้อมปักธงแผนปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 23,500 ล้านบาท โฟกัสธุรกิจหลักอสังหาริมทรัพย์-เฮลท์แคร์ เพิ่มสัดส่วนตลาดบ้านระดับกลางถึงบน เดินหน้าสู่ผู้นำเวลเนส เรสซิเดนซ์


ในขณะนี้เผยแผนธุรกิจปี 2568 เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการอยู่อาศัยที่ผสานความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) ควบคู่การบริการด้านสุขภาพ ตั้งเป้ารายได้รวม 23,500 ล้านบาท โฟกัสธุรกิจหลักอสังหาริมทรัพย์ และเฮลท์แคร์ ปรับพอร์ตโฟลิโอต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนตลาดบ้านระดับกลางถึงบน ต่อยอดธุรกิจพรีคาสท์ พร้อมรุกตลาดก่อสร้างเต็มรูปแบบ ด้านธุรกิจการดูแลสุขภาพเติบโตต่อเนื่องในทุกมิติ เตรียมขยายโรงพยาบาลเฉพาะทาง รองรับความต้องการอีก 3 แห่ง

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่ยังคงสูงอยู่ ขณะที่ปี 2568 ยังมีความท้าทายจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและภาคอสังหาฯ โดยมองว่าหากมีการผ่อนปรนมาตรการ LTV ใน 2-3 ปีจากนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ ได้มากกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยที่เป็นไปตามภาวะการเงิน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนยังต้องการซื้อบ้าน อยากให้มีการกระตุ้นในทุกกลุ่ม โดยมองว่าควรมีการลดเงื่อนไขให้กู้ได้วงเงิน 100% บวกกับอีก 10% และผ่อนปรนเงื่อนไขในการดำรงชีพให้สามารถผ่อนชำระได้ และอยากให้ขยายไปยังบ้านหลังที่ 2 และ3 ด้วย


ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ เพื่อขยายสัญญาการเช่าจากเดิม 30 ปี เป็น 99 ปี มองว่าช่วงแรกขยาย 30+30 คือขยายเพิ่มอีก 30 ปีน่าจะเพียงพอ แต่ถ้าในอนาคตจะมีการขยายเพิ่มอีกก็ยิ่งดี ส่วนการจะเพิ่มโควตาให้ต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียม 75% มองว่าก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้ธุรกิจอสังหาขยายตัวได้ในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้

“ส่วนสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ผันผวน มีหลายบริษัทใหญ่เปิดโครงการรับซื้อหุ้นคืนนั้น ยืนยันพฤกษาฯ ไม่มีโครงการซื้อหุ้นคืน และตนเองยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนี้” นายทองมา กล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของพฤกษา ในปี 2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท ทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ 31.3% โดยยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net gearing ratio) ต่ำที่ 0.31 เท่า สำหรับในปี 2568 มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลัก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ และเฮลท์แคร์ ยึดหลักการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน และเน้นการสร้างสรรค์โครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมดุลทั้งสุขภาพและความสะดวกสบาย


ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 23,500 ล้านบาท ชู 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) กลยุทธ์เชิงรับเพื่อรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ด้วยการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการจัดการและปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด เสริมสร้างสภาพคล่องด้วยการรักษากระแสเงินสดและเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง รองรับการลงทุนในอนาคต พร้อมปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ (2) กลยุทธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการเติบโตท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย ด้วยการสร้างนิยามใหม่ของแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย พร้อมขับเคลื่อนการลงทุนและเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพทั้งในและต่างชาติ

นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการ LTV ว่าจะให้ผลในการกระตุ้นภาคอสังหาได้มากว่าการลดดอกเบี้ย ซึ่งหลังจากที่ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไป 0.25% ธนาคารยังปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เพียง 0.1% จึงมองว่า LTV สำคัญมากกว่า โดยเตรียมนัดประชุมหารือ 7 สมาคมวงการอสังหาฯ เพื่อยื่นเสนอกระทรวงการคลังให้เร็วที่สุด คาดว่าไม่เกินเดือนไม่เกินปลายเดือนมีนาคมนี้

ส่วนปัญหาการปล่อยเช่ารายวันในคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย มีแนวทางป้องกันคือ เมื่อจะมีการขาย ควรแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าไม่สามารถทำได้ และเมื่อเข้ามาอยู่อาศัยแล้วต้องมีมาตรการควบคุมเข้มข้นไม่ให้มีการทำในลักษณะเช่นนี้ได้ ซึ่งทางพฤกษามีการแจ้งเตือนอยู่แล้ว และจะทำให้เข้มข้นมากขึ้น เช่น การใช้พาสคีย์ในการเข้าออกคอนโดฯ

สำหรับในปี 2568 พฤกษาวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 22 โครงการ มูลค่ารวม 23,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 8 โครงการ มูลค่า 4,900 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 8,100 ล้านบาท เน้นพัฒนาโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์ และโครงการที่มีจุดเด่นด้านทำเล โดยในปี 2568 จะมีการเปิดตัวแบรนด์ระดับบนหลายโครงการ เช่น The Palm, The Reserve และ Chapter โดยมีสัดส่วนสินค้าในกลุ่มราคามากกว่า 7 ล้านบาท ราว 50% และโครงการที่ใกล้เมืองมากขึ้นและมีขนาดเล็กลง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ตั้งเป้ายอดขายที่ 19,800 ล้านบาท และยอดขายผ่านโครงการ JV อีก 3,200 ล้านบาท รวมถึงยอดโอน 18,700 ล้านบาท และยอดโอนผ่านโครงการ JV อีก 1,600 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะรับรู้เป็นกำไรจากการลงทุนใน JV พร้อมปรับสัดส่วนโครงการแนวราบจาก ทาวน์เฮาส์ ต่อ บ้านเดี่ยว จาก 60:40 เป็น 50:50 ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ โดยจะเน้นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับ Ultra-premium segment เช่น THE RESERVE, THE PALM สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ส่งเสริมการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ (Well-being-focused collaborative synergy) พร้อมโอนคอนโดใหม่ในปีนี้อีก 4 โครงการ เพื่อรักษามาร์จิ้นในระดับสูงไว้ได้

ด้านธุรกิจพรีคาสท์และก่อสร้าง เตรียมขยายการผลิตและนำเสนอบริการที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยโรงงานพรีคาสท์ซึ่งเป็นโรงงานสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิต 5.2 ล้านตารางเมตรต่อปี และยังเป็นโรงงานปลอดขยะ (Zero-Waste) และลดคาร์บอนแห่งแรก ในปี 2568 ธุรกิจพรีคาสท์ตั้งเป้ารายได้ 2,100 ล้านบาท เน้นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดให้มากขึ้น เช่น ผนังน้ำหนักเบา (Lightweight Wall) กำแพงกันดิน (Retaining Wall) และรั้วสำเร็จรูป (Project Fence) ในขณะที่ธุรกิจก่อสร้างตั้งเป้ารายได้ 5,400 ล้านบาท มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าทั้ง B2B และ B2C สำหรับการสร้างบ้านในระดับราคา 10-30 ล้านบาท

ด้านธุรกิจการดูแลสุขภาพ นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ธุรกิจการดูแลสุขภาพของโรงพยาบาลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ โดยในปี 2567 กลุ่มวิมุตมีรายได้ 2,187 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน มี EBITDA อยู่ที่ 112 ล้านบาท รายได้หลักมาจากศัลยกรรม การตรวจสุขภาพ การดูแลเด็ก แผนกฉุกเฉิน แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ กระดูกสันหลัง สูตินรีเวช และระบบทางเดินอาหาร

สำหรับปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 2,600 ล้านบาท พร้อมพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ทางด้านสุขภาพปอด จักษุ กระดูกสันหลัง ต่อมไร้ท่อ ศัลยกรรม กุมารเวช ระบบทางเดินอาหารและตับ หัวใจและหลอดเลือด เตรียมเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางเพิ่มอีก 3 แห่ง ย่านทองหล่อ สุขุมวิท และปิ่นเกล้า.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]