เตรียมบินแม่สอด ส่งกลับคนจีน 4 เที่ยวบิน พรุ่งนี้

กลาโหม 19 ก.พ.- ‘ภูมิธรรม’ เผย ‘หลิว จงอี’ ขอโทษคนไทย ทำรู้สึกถูกรุกล้ำอธิปไตย ยืนยันใช้ยาแรง ‘เมียนมา’ ต่อ พร้อมประชุมไตรภาคี 3 ประเทศ สัปดาห์หน้า เตรียมบิน ‘แม่สอด’ ส่งกลับคนจีน 4 เที่ยวบิน พรุ่งนี้


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมผู้ช่วยทูตทหารของจีน ทูตทหารจีน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 6 คน ที่ กระทรวงกลาโหม ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่า ว่า นายหลิว จงอี ยืนยันว่า การทำงานของตนในประเทศไทย เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมย้ำว่าเคารพในอธิปไตยของไทยและกฎหมายท้องถิ่นของไทย พร้อมกล่าวขอโทษคนไทย ที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ที่ดูเหมือนว่า เข้ามารุกล้ำอธิปไตยตามที่วิพากษ์วิจารณ์กัน นายหลิว จงอี้ กล่าวว่า อาจเป็นความเร่งร้อนและมุ่งมั่นมากเกินไป เพราะห่วงประชาชนของตัวเอง จึงทำให้เกิดความไม่เข้าใจไปบ้าง

นายภูมิธรรม ได้บอกกับนายหลิว จงอี ว่า ไม่เป็นไร เพราะรู้ว่ามีความตั้งใจและความมุ่งมั่น ซึ่งเรามีความเข้าใจกันอยู่แล้ว ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่จะทำงานร่วมกัน และจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้มากขึ้น ซึ่งนายหลิว จงอี อยากให้ไทยชี้แจงประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ


นอกจากนี้นายหลิว จงอี ชื่นชมมาตรการตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต และตัดน้ำมัน ของรัฐบาลไทย ในส่วนของฝ่ายจีน นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายหลี่เฉียง นายกฯจีน ได้ชื่นชม พร้อมทั้งขอบคุณผ่านแพรทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่เราเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และร่วมกันทำงานจนได้ผล ซึ่งนานาประเทศก็ชื่นชมในการทำงานครั้งนี้ ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม กล่าวถึง 4 ข้อเสนอ ของนายหลิว จงอี้ ซึ่งตนเห็นด้วย ได้แก่

  1. การเสริมสร้างกลไกไตรภาคีที่เป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือระหว่าง ไทย เมียนมา จีน เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ให้เป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในการประสานงาน ขณะนี้ รมช.มหาดไทยเมียนมา ผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา อยู่ในไทยแล้ว พร้อมเปิดการเจรจาไตรภาคี ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพร้อมของประเทศไทย โดยได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศตั้งไข่กลไกไตรภาคี เชิญทางเมียนมา ในฝ่ายไทย รมว.กลาโหม จะเข้าร่วมเอง หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการจัดประชุมไตรภาคี ขณะนี้กระทรวงกลาโหมกำลังประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ
  2. ฝ่ายไทยจะช่วยเหลือในการส่งกลับคนจีนที่มีทั้งเหยื่อและผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัจจุบันมีชาวจีนที่ผ่านการคัดกรองอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 600 คน ซึ่งทางจีนจะส่งเครื่องบินมารับทั้งหมด 3 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวละ 200 คน ห่างกัน 3 วัน ส่วนเหตุที่จะต้องใช้สนามบินแม่สอด จ.ตาก เพราะเนื่องจากเส้นทางในเมียนมาไม่ปลอดภัย เช่น มีกับระเบิด ซึ่งเมื่อหมดล็อตนี้แล้ว จะไปหารือในวงประชุมไตรภาคี ซึ่งไทยมีเงื่อนไขว่าการส่งตัวกลับต้องขึ้นเครื่องกลับไปโดยทันที ไม่มีพักคอยที่ อ.แม่สอด โดยฝ่ายจีนรับปากว่าหากจีนสอบสวนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ข้อมูลว่ามีส่วนใดเกี่ยวโยงกับประเทศไทยแล้ว จะแจ้งให้ทางการไทยรับทราบ เพื่อนำไปสู่การขุดรากถอนโคนเครือข่ายต่อไป
  3. ฝ่ายไทยได้ตอบรับมาตรการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ต่อไป จนกว่าจะพิสูจน์ว่าแก๊งคอลเซนเตอร์จะเบาบางจนถึงหมดไป พร้ออมสกัดไม่ให้อาชญากรย้ายฐานไปที่อื่น

อย่างไรก็ตามฝ่ายไทยได้ร้องขอเครื่องมือพิเศษจากจีนในการตรวจตู้คอนเทนเนอร์ เพราะจีนกังวลว่าจะมีสินค้าต้องห้ามเล็ดรอดออกไป ซึ่งทางจีนรับปากว่าจะนำไปพิจารณา


ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ได้ปฏิเสธข้อเสนอที่ 4 ที่ให้ปิดกั้นสิ่งอุปโภคบริโภคไปยังเมียนมา เพราะไทยต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และไม่อยากให้กระทบกับประชาชนที่ไม่มีส่วนรู้เห็นทั้งสองประเทศ

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) จะมีการส่งกลับคนจีน 4 เที่ยวบิน ซึ่งตนเอง พร้อม รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม จเรตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายจีนนำโดย นายหลิว จงอี และคณะ ฝ่ายเมียนมา นำโดย รมช.มหาดไทย เมียนมา และคณะ จะเดินจากกองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังสนามบินแม่สอด ไปส่งคนจีนกลับประเทศ เพื่อให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศ

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถาม โดยนาย ภูมิธรรมได้ย้ำว่า เรื่องสถานที่ประชุมไตรภาคี ต้องเอาที่สะดวกที่สุดกับทุกฝ่าย ซึ่งทางฝั่งเมียนมามีความพร้อมแล้ว เพราะนายหลิว จงอี ได้ไปพูดคุยกับทางเมียนมา แล้วมารายงานกับตนว่าพร้อมที่จะมาพูดคุย เลยมาขอให้ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับไทยว่าจะพร้อมหรือไม่ ให้กลไกนี้สมบูรณ์

เมื่อถามย้ำถึงจำนวนเที่ยวบินที่จะมารับคนจีน นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะมี 3 รอบ แต่ละรอบเว้น 3 วัน ซึ่งในรอบแรกจะมี 4 เที่ยวบิน

“อันนี้เป็นข้อตกลงสุดท้าย ไม่ต้องมีเห็นว่า ได้ยินว่า ยืนยันชัดเจน เพราะผมได้ตัดสินใจพูดคุย กับเขาในที่ประชุมเรียบร้อยแล้ว เขายอมรับทุกอย่าง และขอบคุณเราที่เข้าใจ ซึ่งเราจะร่วมมือกันอย่างดี” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามถึงการคัดกรองเหยื่อ และขบวนการคอลเซ็นเตอร์ นายภูมิธรรม ระบุต่อว่า การดำเนินการทั้งหมด เป็นกระบวนการร่วมกัน เดี๋ยวเราจัดการกันเองภายใน และไม่อยากเปิดเผยให้ทราบมาก เพราะเป็นกระบวนการที่ยังต้องต่อเนื่อง ยังไม่มีที่สิ้นสุด ขออนุญาตไม่พูดถึงรายละเอียด

ส่วนการรับมือกับชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวจีน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นข้อตกลงร่วมกันอยู่แล้ว เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถดูได้ว่าจะนำออกมาจัดการได้เท่าไหร่ ได้มาทุกครั้งก็ต้องมีกระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ (MRN) และให้ดำเนินการที่ฝั่งเมียนมา เพราะไม่ต้องการให้เป็นภาระของไทย

“ไม่มีทางไปก็ค้างอยู่ที่เรา เราไม่อยากตั้งค่ายผู้อพยพอีก เพราะฉะนั้นต้องเคลียร์ทางฝั่งเมียนมาให้เรียบร้อย ถ้าจะออกมาก็ต้องชัดเจน ถ้าเป็นคนจำนวนน้อยสถานทูตต่างๆ ก็ต้องมารับตัวไปดำเนินการ หากมาเยอะก็ต้องวางแผนใหม่ อย่างประเทศเคนยาก็มีปัญหาว่า เขาไม่มีสถานทูตในประเทศไทย ก็กำลังประสานงานกันอยู่ เขาก็ต้องมารับ ถ้าจะเอาคนออกไปก็ต้องผ่านกระบวนการ ไม่มีมาค้างที่แม่สอดก่อน แล้วมาว่ากันที่หลังไม่มี” นายภูมิธรรม กล่าว-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]