ลอนดอน 3 มี.ค.- หลายประเทศในยุโรป นำโดยสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ให้กำลังใจผู้นำยูเครนและผนึกกำลังกันผลักดันแผนสันติภาพในยูเครน หลังเกิดเหตุผู้นำสหรัฐปะทะคารมดุเดือดระหว่างหารือกับผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาว
หลังจากเดินทางเยือนสหรัฐ และเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดในทำเนียบขาว นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครนได้เดินทางต่อไปยังกรุงลอนดอนของอังกฤษ ซึ่งได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ 18 ประเทศ หลังจากนั้นนายเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษได้ประกาศแผนยุติสงคราม และป้องกันยูเครนจากรัสเซีย ที่มีหัวข้อหลัก 4 ข้อ คือ
1. ให้ความช่วยเหลือด้านการทหารกับยูเครนต่อไปพร้อมกับพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
2. การเจรจาสันติภาพต้องยึดอธิปไตยและความมั่นคงของยูเครน
3. เมื่อได้ข้อตกลงแล้ว ยังต้องเสริมศักยภาพทางการทหารให้ยูเครน เพื่อป้องปรามการรุกรานจากรัสเซีย
และ 4. ให้จัดตั้งแนวร่วมเพื่อปกป้องข้อตกลงหยุดยิงและรักษาสันติภาพในระยะยาว
นายสตาร์เมอร์ประกาศด้วยว่า มีบทเรียนจากข้อผิดพลาดในอดีตมาแล้ว จึงไม่สามารถทำข้อตกลงที่อ่อนแอได้ เพราะรัสเซียพร้อมที่จะละเมิดข้อตกลงได้ทุกเมื่อ ต่อข้อถามเรื่องบทบาทของสหรัฐนั้น ผู้นำอังกฤษระบุว่า บรรดาผู้นำต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ขณะที่นายเซเลนสกีกล่าวว่า ยูเครนจะร่วมกับยุโรปในการหาจุดยืนในการร่วมมือกับสหรัฐ เพื่อเป้าหมายสันติภาพที่แท้จริงและหลักประกันด้านความมั่นคง
การประชุมครั้งนี้ยังมีการหารืออย่างเข้มข้นเกี่ยวกับความมั่นคงที่บรรดาผู้นำยุโรปเห็นร่วมกันว่า เมื่อสหรัฐอยู่ภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ที่มีนโยบายเอนเอียงเข้าข้างรัสเซีย ยุโรปมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเพิ่มกำลังทหาร โดยในอันดับแรกต้องมุ่งช่วยเหลือยูเครนอย่างเต็มที่
หลังจากการประชุม นายเซเลนสกีได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า เขายังสามารถพลิกฟื้นความสัมพันธักับนายทรัมป์ได้ โดยพร้อมที่จะลงข้อตกลงแร่ธาตุที่นายมทรัมป์ต้องการ และยังเชื่อว่า สหรัฐในฐานะผู้นำโลกเสรีจะยุติการช่วยเหลือยูเครนต่อสู้กับรัสเซีย.-812(814).-สำนักข่าวไทย