รัฐสภา 24 ก.พ.-“วิสุทธิ์” ระบุเป็นเรื่องดี “ทักษิณ” นัดคุย “เนวิน-อนุทิน” มั่นใจไร้เสียงแตกศึกซักฟอก ยันตรวจสอบที่ดินปากช่อง ไม่เกี่ยว “เพื่อไทย” เป็นหน้าที่ ก.เกษตรฯ มองพรรคร่วมฯ เห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงปัญหาระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยที่มีการโต้กันไปมา จะเกิดการวางยาและส่งผลต่อการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ว่า ไม่มีใครวางยาใคร และไม่ใช่การโต้กัน เป็นธรรมดาของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีหลายพรรค การทำงานอาจจะทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย เพราะแม้แต่ในพรรคเพื่อไทยก็ใช่ว่า สส.จะเห็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ทุกครั้งที่มีการประชุมพรรคก็จะมีการอภิปรายโต้แย้ง แต่สุดท้ายมติพรรคเป็นอย่างไรเราก็ทำตามนั้น
“ขณะนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยก็มีบางเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่คิดว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ตรงเป็นไปในทิศทางเดียวเพราะเป็นรัฐบาลพรรคร่วม แต่การแสดงความคิดเห็นด้านกฎหมายก็อาจจะมีบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา” นายวิสุทธิ์ กล่าว
ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าการตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟในอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และแรนโช ชาญวีร์ จะทำให้เกิดความหมางใจกัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ตรวจสอบและเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ตนเองก็ได้ยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งเรื่องในศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพียงแต่รอเจรจากันอีกครั้งในวันพุธที่ 26 ก.พ.นี้
ส่วนการตรวจสอบกันไปมา จะทำให้เกิดการแตกหักและอยู่ร่วมกันไม่ได้หรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ตรวจสอบ แต่เป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของเขา ส่วนจะจริงหรือเท็จไม่ทราบ และคงไม่มีอะไร จะตรวจสอบก็ตรวจสอบกันไปและพรรคเพื่อไทยไม่ได้สั่งให้ไปตรวจสอบ
พร้อมกันนี้นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวว่าเย็นวันนี้ (24 ก.พ.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นัดพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิตชอบ ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) ก่อนดินเนอร์พรรคร่วมพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) หรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่ดี ตนมองว่าที่ทั้ง 2 ท่าน ไปเจรจากันเป็นผลประโยชน์ ที่จะต้องไปคุยกันต้องเป็นผลบวก
“การไม่คุยกันจะเกิดปัญหา การที่ผู้ใหญ่ไปปรึกษาหารือเจรจากัน มันเป็นทางออกหนึ่งทางการเมือง ผมคิดว่าเป็นผลบวกและเป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าไม่คุยกัน คุยกันเป็นการปรับความเข้าใจกัน“นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่ามีปัญหาจริงๆ นายทักษิณจึงต้องลงมาคุยเองใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ปัญหาหนักหนาอะไร เพราะที่ผ่านมามีการพูดคุยกันเป็นระยะอยู่แล้ว และไม่น่าใช่เรื่องร้ายแรง ที่ทำให้มีปัญหาเรื่องการโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ทั้งนี้ มั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาลและเสียงในการโหวตจะไม่แตกแถวใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็อยู่กันแค่นี้ เท่าที่เห็น มันจะไปทางอื่นไม่ได้เลย อย่างไรก็ต้องกอดคอเดินหน้าไปด้วยกัน ในขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังอยู่รัฐบาลอยู่ ไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสที่จะไม่โหวตให้กัน
เมื่อถามว่าเป็นไปไม่ได้ใช่หรือไม่ ที่จะไม่เอาพรรคภูมิใจไทยแล้ว นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ข่าวออกมาอย่างนั้น ตนก็ฟังจากสื่อ แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า อย่างไรก็ต้องไปด้วยกัน ยังทิ้งกันไม่ได้ ในส่วนของสส. ถ้าอยู่ในสภายังกินข้าว ปรึกษาหารือ พูดคุยกันปกติ เรื่องความเห็นต่างก็เป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตยไม่มีอะไรน่าหนักใจเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่มีลุ่มๆ ดอนๆ กันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แม้แต่คนในครอบครัวบางวันก็ดีกันบางวันก็ไม่ดีกัน ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร.-315.-สำนักข่าวไทย