ขอนแก่น 24 ก.พ. – ตำรวจจ่อแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับ 5 อดีตทหารเกณฑ์ รุมทำร้ายเจ้าภาพรถแห่ มือมีดรับสารภาพ อ้างขณะเกิดเหตุเมาสุรา จึงหยิบมีดที่พื้นมาป้องกันตัว ไม่เจตนาก่อเหตุ
คืบหน้ากรณีนายกนกพล หรือตอง อายุ 30 ปี ผู้บาดเจ็บ โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท หน้ารถแห่ภายในงานบุญ หมู่บ้านศรีสมบูรณ์ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น โดยผู้โพสต์ระบุว่าตนเองเป็นเจ้าภาพว่าจ้างรถแห่ มาร่วมงานทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับ แต่ระหว่างคนในงาน กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนาน เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น 4-5 คน เข้ามาหาเรื่องกลุ่มญาติของตน อ้างว่าเหยียบเท้ากันระหว่างเต้นหน้ารถแห่แล้วไม่ขอโทษ ตนในนามเจ้าภาพ จึงมาช่วยเจรจา แต่อีกฝ่ายไม่ยอม พุ่งเข้าชกหน้า ก่อนจะรุมทำร้ายจนแม่ต้องเอาตัวมาบังไว้ และเอามีดไล่แทงคนหน้ารถแห่ มีคนเจ็บหลายคน ซึ่งต่อมาทราบว่าคู่กรณีเป็นทหาร โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.07 น. วันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา
วันนี้ นายกนกพล หรือตอง ผู้บาดเจ็บ และผู้โพสต์คลิปดังกล่าวมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.กระนวน โดยยังมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณหลังจากเหตุดังกล่าว จึงมีแม่คอยพยุงมา และนายจักริน อายุ 20 ปี ผู้บาดเจ็บอีกคนถูกมีดบาดที่เอวด้านซ้าย และถูกชกตาเขียวเข้าให้ปากคำกับด้วย ทั้งนี้ นายตอง เปิดเผยว่า เบื้องต้น เมื่อช่วงเช้าแม่ของคู่กรณีได้ติดต่อมาหา และบอกว่าจะดูแลรับผิดชอบค่าเสียหายในที่เกิดเหตุ แต่ต้องรอคุยในรายละเอียดกันอีกครั้ง
หลังจากนั้น จึงเข้าไปให้ปากคำ โดยวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.กระนวน ยังได้เรียกตัวฝั่งผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอดีตทหารเกณฑ์ 5 คน ที่ก่อเหตุ มาสอบปากคำด้วย โดย 1 ในผู้ก่อเหตุ อายุ 27 ปี รับว่าเป็นมือมีด ให้การยอมรับว่ามีการทะเลาะกันในวันเกิดเหตุ โดยมีอาการเมาสุรา จึงมีปากเสียงกับทางคู่กรณี และใช้มีดที่เก็บเก็บได้ที่พื้น ขณะชุลมุนกันหยิบขึ้นมาป้องกันตัวเท่านั้น หากจะตั้งใจแทงจริงๆ คงแทงไปตั้งแต่มาถึงแล้ว
ด้าน ผกก.สภ.กระนวน ให้ข้อมูลว่าคดีนี้ ผู้บาดเจ็บ 2 คน เข้าแจ้งความไว้ตั้งแต่ คืนวันที่ 22 และ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าในวันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษที่บ้านศรีสมบูรณ์ ได้ว่าจ้างรถแห่มาฉลอง ขณะมีการแสดงของรถแห่มีชาวบ้านมาร่วมชมและเต้นกันหน้ารถแห่คนเจ็บ 2 คน ได้ยืนอยู่ในกลุ่มชาวบ้าน แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น บุกเข้ามารุมทำร้าย ในวันนี้ ตำรวจได้สอบปากคำคนเจ็บเพิ่มเติม และวัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุ ซึ่งถูกระบุว่ามี 5 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน
เบื้องต้นจะต้องสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่าย ให้ได้ข้อเท็จจริง พร้อมกับรอผลจากตรวจร่างกายของผู้ได้รับบาดเจ็บ มาประกอบสำนวนคดีก่อนจึงจะแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นทหารเกณฑ์ที่ถูกปลดประจำการแล้ว ปัจจุบันจึงไม่ได้เป็นทหาร และทราบว่า ทางญาติของผู้ก่อเหตุพร้อมจะเยียวยาผู้บาดเจ็บ ก็สามารถทำได้ และยืนยันว่า ตำรวจจะสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย
