เบอร์ลิน 24 ก.พ.- พรรคอนุรักษ์นิยมได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนีเมื่อวานนี้ เตรียมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่พรรคขวาจัดตามมาเป็นอันดับ 2 ทำผลงานดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนพรรครัฐบาลชุดปัจจุบันตกไปอยู่ที่อันดับ 3
ผลการนับคะแนนล่าสุดชี้ว่า พันธมิตรสายอนุรักษ์นิยมที่ประกอบด้วยพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนหรือซีดียู (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียนหรือซีเอสยู (CSU) ได้เสียงสนับสนุนมากที่สุดที่ร้อยละ 28.5 ส่งผลให้ที่นายฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำพรรคซีดียู เตรียมขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเยอรมนี เขากล่าวขอบคุณผู้ที่ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคซีดียู และจะเร่งจัดตั้งรัฐบาลทันที เพื่อแสดงให้เห็นว่าเยอรมนียังคงแข็งแกร่ง พร้อมกลับมามีบทบาทในยุโรปอีกครั้ง และเพื่อให้โลกรับรู้ว่า เยอรมนีกำลังจะกลับมามีรัฐบาลที่น่าเชื่อถือได้อีกครั้ง
ขณะที่พรรคทางเลือกเยอรมนีหรือเอเอฟดี (AfD) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดที่มาแรงในช่วงที่ผ่านมา ได้คะแนนเสียงมากเป็นอันดับสองที่ร้อยละ 20.6 เป็นการทำผลงานได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ตั้งพรรคขึ้นในปี 2556 พรรคมีนโยบายจะกวาดล้างเด็ดขาดในช่วงที่เยอรมนีต้องรับมือกับเหตุความรุนแรงจากผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย

พรรคซีดียูประกาศจะแก้ไขปัญหาที่สั่งสมในเยอรมนีตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แต่การจัดตั้งรัฐบาลผสมอาจไม่ง่าย เพราะทางพรรคประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคขวาจัด ทำให้อาจต้องจับมือเป็นพันธมิตรกับพรรคสังคมประชาธิปไตยหรือเอสพีดี (SPD) ของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ที่รัฐบาลของเขาเพิ่งล้มลงเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ท่ามกลางคะแนนความนิยมตกต่ำ และได้คะแนนเป็นอันดับ 3 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า นายกรัฐมนตรีชอลซ์อาจรับหน้าที่ผู้นำเฉพาะกาลไปอีกหลายเดือน ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ความเสี่ยงเรื่องมาตรการภาษีและการค้าจากรัฐบาลสหรัฐ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และสงครามรัสเซียกับยูเครนที่กำลังมีความพยายามจากหลายฝ่ายในการเร่งให้เกิดการเจรจายุติสงคราม โดยที่ชาติในยุโรปแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย