21 ก.พ. – ตำรวจไซเบอร์ค้น 4 จุดกลางกรุง ขยายเว็บพนันยักษ์เงินหมุนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี ยึดทรัพย์ 35 ล้าน-พร้อมเร่งล่า “นายท็อป” เจ้าของเว็บหลังชิ่งหนีกบดานเวียดนาม
เมื่อเวลา 16.35 น. วันที่ 21 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.รรท. รอง ผบช.สอท.,และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ขยายผลเว็บพนันรายยักษ์ เงินหมุนกว่า 1.1 หมื่นล้านต่อปี ค้น 4 จุดกลางกรุง ยึดทรัพย์กว่า 35 ล้านบาท
พล.ต.ต.ศรายุทธ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 สามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้นับ 10 ราย และนำมาสู่การจับกุมผู้จัดการด้านการเงินและผู้ทำหน้าที่กดเงินสดได้ 2 ราย พร้อมตามจับกุมบัญชีม้าได้อีก 3 ราย และตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 3,956,500 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ได้นำเงินไปให้ นายท็อป (นามสมมุติ) ที่เป็นผู้รับผลประโยชน์ (เจ้าของเว็บ) เฉลี่ยเดือนละ 4 ครั้ง ๆ ละหลักล้านบาท โดยทั้งสองได้ค่าตอบแทนเดือนละ 30,000-50,000 บาท และได้ค่าตอบแทนจากการกดเงินออกจากบัญชีอีกครั้งละ 5,000 บาท ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นายคณพล หรือนายท็อป เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในข้อหา “จัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน”
กระทั่งวันนี้ (21 ก.พ.) ตำรวจได้นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ กทม. จำนวน 4 จุด แต่จากการตรวจค้นยังไม่พบตัวนายท็อป / เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางซึ่งเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และฟอกเงิน อาทิ รถยนต์หรู 5 คัน , เงินสด , เงินสกุลต่างประเทศ , โฉนดที่ดิน, อาวุธปืนลูกซองยาว , อาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ , ตุ๊กตาแบร์บริค , ตุ๊กตามอลลี่ เป็นต้น รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดประมาณ 35 ล้านบาท
เบื้องต้นจากการตรวจค้นในจุดที่ 4 ซึ่งเป็นห้องพักคอนโดหรูย่านทองหล่อ พบตัวแฟนสาวของนายท็อป ซึ่งมีลักษณะกำลังเตรียมตัวจะออกเดินทาง จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ และจากการสอบปากคำตัวแฟนสาวให้การว่า ตนเองกำลังจะออกเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม โดยที่ผ่านมาตนเองได้รับเงินเดือนจากนายท็อปเดือนละ 200,000 – 300,000 บาท และติดต่อกันมาอยู่ตลอด โดยครั้งสุดท้ายที่ได้พบเห็นคือเมื่อวันที่ 17 เดือนมกราคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลว่า นายท็อป ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปที่ประเทศเวียดนามก่อนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างประสานประเทศปลายทางเพื่อให้ติดตามจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป.-420- สำนักข่าวไทย