รัฐสภา 14 ก.พ. –“เพื่อไทย” เตรียมเสนอญัตติของตัวเองภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้รัฐสภาถกเลื่อนวาระ ยื่นศาลรธน. ตีความทำประชามติกี่ครั้ง เชื่อไม่เป็นญัตติซ้ำ “หมอเปรม” ด้าน “สุทิน” รับทำสภาล่ม เพื่อรักษาร่างแก้รธน. ฝากสื่อถามพรรคส้ม หัวชนฝาแก้รธน.แล้วตก ได้ประโยชน์อะไร เทียบทางเดินเพื่อไทย ดีกว่า ชี้ปัญหาอยู่ที่เสียงสว. ไม่ใช่สส. ป้องนายกฯ รับผิดชอบแล้ว ส่วนพรรคร่วมที่เห็นต่าง รอดูนายกฯ แสดงภาวะผู้นำ
นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะแถลงข่าวภายหลังองค์ประชุมรัฐสภาล่มในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยย้ำเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยที่จะรักษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ให้อยู่ในระเบียบวาระได้มากที่สุด ไม่ให้ถูกตีตก ซึ่งวันนี้มีท่าทีจะเปิดประชุมเพื่อพิจารณาต่อ ทุกคนรู้คำตอบแล้วว่าถ้าพิจารณาแล้วลงมติก็ต้องตกไป ดังนั้นเมื่อเรามีจุดยืนที่จะรักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้เพื่อหาลู่ทางนำไปสู่การแก้ไขให้สำเร็จ จึงรักษาไว้ด้วยวิธีการให้มีการพิจารณา จึงทำวิธีการที่ไม่อยากทำ คือไม่เป็นองค์ประชุม และในที่สุดการประชุมวันนี้ไม่สามารถดำเนินการไปได้ เมื่อไม่ได้ร่างนั้นยังอยู่ เราจะ พยายามนำสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาตีความอีกครั้งหนึ่งให้ได้ ไม่ใช่ให้ค้างอยู่ และมีบางพรรคการเมืองไม่เข้าใจเรา ซึ่งต้องเข้าใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยุ่งยากจนทำให้หลายคนมองว่าจะไม่สำเร็จนั้นเกิดจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ชัดเจน หลายฝ่ายหยิบยกไปตีความเข้าข้างตัวเอง ฝ่ายที่ไม่อยากแก้ ก็ได้ทีตีความว่าศาลพิจารณาแบบนี้ จะแก้ไม่ได้ หากแก้ได้ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง นั่นคือความไม่ชัดเจนคลุมเครือถูกฝ่ายไม่อยากแก้นำไปเป็นความชอบธรรมให้ตัวเอง ถึงขั้นข่มขู่ว่าใครร่วมพิจารณามีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีและถอดถอน ทำให้สมาชิกหลายคนวิตก ซึ่งเป็นข้อเสียของความไม่ชัดเจน
นายสุทิน กล่าวว่าส่วนฝ่ายที่อยากแก้ตีความว่าแก้ได้ โดยให้ทำประชามติ2 ครั้ง เราก็ยื่นแต่เมื่อยื่นแล้ววันนี้จึงเกิดปัญหาและมีความคลุมเครือ ถ้าปล่อยให้ความคลุมเครือดำรงอยู่ปีนี้ หรือปีหน้า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ชี้ให้ชัดเจน ก็แก้ไม่ได้ ถ้าเราเดินหน้าจนร่างตกไปก็ต้องเป็นสมัยประชุมหน้าที่จะยื่นได้ และเมื่อยื่นเข้าไปอีกก็จะเจอความคลุมเครือนี้อีกก็จะเดินหน้าไม่ได้อีก ดังนั้นวิธีการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สำเร็จในมุมมองของพวกเราคือต้องทำให้การวินิจฉัยนี้ชัดเจน โดยหากศาลบอกให้ทำประชามติ 3 ครั้งก็ชัดเจน เราก็จะดำเนินการทำ 3 ครั้ง ซึ่งอาจต้องรอกฎหมายประชามติ หากศาลบอกว่า 2 ครั้ง ก็สามารถเดินหน้าได้เลย และจะมองเห็นความสำเร็จ การที่เราพยายามนำร่างแก้รัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อคลี่คลายและปิดทางที่คลุมเครือให้ทุกฝ่ายเดินได้ และที่จะได้มากกว่านี้ก็คือ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาชัดว่าทำเพียง 2 ครั้งเท่านั้น จะได้เห็นว่าฝ่ายที่อ้างว่า ไม่อยากแก้แล้วเข้าข้างตัวเอง พรรคการเมืองเหล่านั้นหรือสว.จะตอบว่าอย่างไร จะเดินหน้าแก้กับตนไหม ประชาชนจะได้รู้ชัดรู้แจ้งว่าใครมีเจตนาที่จะแก้จริงหรือไม่จริง ดังนั้นทางเดียวที่จะผ่าทางตันและพิสูจน์ คือให้ศาลวินิจฉัย
นายสุทิน กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนบอกว่าเคยยื่นไปแล้วแต่ศาลไม่รับว่า ตอนนั้นยังไม่มีข้อขัดแย้งเพราะยังไม่เข้าสู่สภา แต่วันนี้เราจึงทำให้องค์ประกอบนั้นชัด คือยื่นเข้าสภาและมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว ฝ่ายหนึ่งบอกบรรจุไม่ได้อีกฝ่ายบอกบรรจุได้ จึงเชื่อว่าสาเหตุองค์ประกอบที่ครบแล้วศาลจะรับและตีความออกมา เราหวัง อย่างนั้นและจำเป็นต้องเดินแบบนี้ เราต้องลงทุน ซึ่งอาจมีคนที่ไม่เข้าใจเราก็ยอมให้ตำหนิแต่เชื่อว่าเมื่อจบไปสู่เป้าหมายแล้วทุกคนจะเข้าใจเรา
ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า สำหรับการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าจะทำประชามติกี่ครั้งนั้น พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมรายชื่อให้เกิน 40 คน เพื่อเสนอญัตติใหม่ เข้ามาบรรจุในระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาลำดับที่ 4 โดยจะรวบรวมให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้ประธานรัฐสภา เปิดประชุมพิจารณาให้เร็วที่สุด โดยจะไม่ใช้ญัตติของนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ที่เสนอไว้ เพราะอยากทำใหม่เลยเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า ญัตติของพรรคเพื่อไทยสามารถที่จะนำมาพิจารณาได้ไม่เป็นญัตติซ้ำหลังที่ประชุมลงมติไม่เลื่อนญัตติของนายแพทย์เปรมศักดิ์ขึ้นมาพิจารณา เพราะมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแค่การขอเลื่อน และญัตติดังกล่าวยังคงอยู่ไม่ได้ตกไป
จากนั้น นายสุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เราทำอยู่นี้ ประโยชน์ คือได้ความชัดเจน และจะทำให้การแก้ไข รัฐธรรมนูญ มีโอกาสสำเร็จ จึงอยากฝากสื่อมวลชน ให้ถามพรรคประชาชนว่าแนวทางที่พรรคประชาชนกำลังเดิน มีประโยชน์อย่างไร แล้วจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำเร็จอย่างไร ถ้าเดินไปแล้วมันตก โอกาสจะแก้จะสำเร็จได้อย่างไร ถามหน่อย จะได้เอามาเปรียบเทียบกับแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเดิน สื่อมวลชนจะได้เห็น ช่วยถามหน่อย ประชาชนจะได้นำมาเปรียบเทียบกันว่า แนวทางที่พรรคเพื่อไทยเดินอยู่
เมื่อถามย้ำว่า ส่วนที่พรรคประชาชนอยากให้ พรรคเพื่อไทย ทำความเข้าใจกันในพรรคร่วมรัฐบาล แล้วมาเดินหน้าโหวต นายสุทิน รับว่า ปัญหาวันนี้ ไม่ได้เกิดที่เสียง สส.ฝั่งรัฐบาล แต่มันเกิดที่เสียง สว. เราอยากได้ 67 แต่มันไม่ได้ ส่วนเรื่องของรัฐบาล เราก็ต้องยอมรับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องใหญ่ ทุกพรรคมีจุดยืนเป็นของตัวเอง พรรคเพื่อไทย ในฐานะเป็นแกนนำ ที่ทุกคนชอบถามหาความรับผิดชอบจากนายกรัฐมนตรี ว่าถ้าเสนอในนามรัฐบาลไม่ได้ นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบอย่างไร เขาก็รับผิดชอบแล้ว โดยการให้พรรคของเขาเสนอแทน เพราะเมื่อพรรครัฐบาล แต่ละพรรคมีจุดยืนอย่างนั้น ในทางการเมือง นายกฯจะแสดงภาวะผู้นำอย่างไร กับพรรคเหล่านั้น เราก็ต้องดูต่อ แต่ความรับผิดชอบ ที่นายกฯ ทำต่อรัฐธรรมนูญ คือ ให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้าแก้ และเราก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถ้าถามความรับผิดชอบจากนายกฯ ก็ทำแบบนี้.-319 -สำนักข่าวไทย