รัฐสภา 14 ก.พ.- “สภาล่ม” ส้ม-สว.สุดยื้อ หลังพักประชุม 20 นาที มีองค์ประชุมแค่ 175 จากยอดเข้าชื่อ 620 คน ป่วนตั้งแต่เสนอญัตติ “ชลน่าน” เล่นเกมเสนอนับองค์ประชุมทำ “ฝ่ายค้าน-สว.” ประท้วงวุ่น ด้าน “วันนอร์” พ้อ พวกท่านพูดตั้งเยอะ ทำไมประธานจะพูดไม่ได้ สอน “ไอติม” จะดื้อเอาแต่ใจไม่ได้ บอกไม่ต้องส่ายหัว ถ้าไม่จริงใจคงไม่บรรจุระเบียบวาระ
การประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เสนอโดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะ และเสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนและคณะ
โดยเวลา 09.40 น. นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งต่อที่ประชุมว่าจะให้รวมญัตติดังกล่าวพิจารณาร่วมกัน และใช้เวลาพิจารณารวม 19 ชั่วโมง แบ่งเป็นเวลาของ 3 ฝ่าย คือ สว. สส.ฝ่ายค้าน และ สส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายละ 6 ชั่วโมง และของประธานในที่ประชุม 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ให้นายพริษฐ์ ได้แถลงเสนอญัตติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวะนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงประธานรัฐสภา ว่า ไม่ชอบด้วยข้อบังคับ เพราะองค์ประชุมไม่พอเข้าสู่ระเบียบวาระได้
ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่า ตามข้อบังคับหากสมาชิกมาลงชื่อครบองค์ประชุม ซึ่งองค์ประชุมเกินแล้ว ไม่ทราบผิดข้อบังคับข้อใด
นพ.ชลน่าน ประท้วงต่อว่า ตามข้อบังคับสมาชิกลงชื่อเข้าประชุมครบองค์ประชุมและสามารถเปิดประชุมได้ แต่การพิจารณาเรื่องใดๆ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ องค์ประชุมที่มาประชุมต้องครบด้วย ขอประท้วงและขอให้ตรวจสอบองค์ประชุมก่อนจะแถลงหลักการและเหตุผล
ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประท้วง นพ.ชลน่าน ว่า เป็นการทำผิดข้อบังคับ เนื่องจากนายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งให้นายพริษฐ์ แถลงหลักการและเหตุผลแล้ว ดังนั้นการเสนอให้ตรวจสอบนับองค์ประชุมจึงถือว่าผิดข้อบังคับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความวุ่นวาย เพราะนายพริษฐ์ ได้พยายามอธิบายที่จะเดินหน้าแถลงเสนอญัตติ ทว่าใน สส.พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงและขอให้นับองค์ประชุมก่อนเสนอญัตติ อย่างไรก็ดีนายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่า แม้ว่าจะให้แถลงญัตติแล้ว แต่เมื่อมีการเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุมสามารถทำได้ และประธานต้องดำเนินการนับองค์ประชุม โดยไม่มีเหตุผลอะไร เพราะการเสนอนับองค์ประชุมเป็นเอกสิทธิ์ พร้อมกับเรียน สมาชิกรัฐสภากดบัตรแสดงตน
“เจตนาผมเมื่อองค์ประชุมครบต้องเปิดการประชุม เป็นไปตามข้อบังคับ หากมีสมาชิกขอนับองค์ประชุมตรวจสอบองค์ประชุม ผมต้องดำเนินการ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ ระหว่างนับองค์ประชุมต้องทำให้จบก่อนดำเนินการต่อไปได้” นายวันมูหะมัดนอร์
ทั้งนี้ มีสมาชิกรัฐสภายกมือประท้วงจำนวนมาก แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ไม่อนุญาตพร้อมบอกว่า จะให้สิทธิประท้วงทุกคน แต่หลังจากที่นับองค์ประชุมแล้วเสร็จ และได้ปิดไมโครโฟนของสมาชิกรัฐสภา
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้มีเจตนาที่ให้องค์ประชุมไม่ได้ประชุมแต่เป็นไปตามข้อบังคับท่านมีอิสระเต็มที่ แต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าการลงมตินั้นสมควรหรือไม่ ผมไม่มีอำนาจอะไรนะครับ ต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับดังนั้นภาพของการประท้วงที่สภานี้มันก็จะออกไปข้างนอกสภาก็เสียผมในฐานะประธานก็เสียก็ดำเนินการตามระเบียบวาระ”
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังได้กล่าวถึงคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ แต่มีผู้ประท้วงจนเสียงดัง ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ถึงกับปราม “ถ้าท่านไม่อยู่ในระเบียบผมก็ต้องให้เจ้าหน้าที่มาเชิญนะครับ ท่านเข้าใจอย่างไร ท่านเข้าใจว่าผมข้ามขั้น อันนี้เป็นไปตามข้อบังคับครับ ทำไมประธานจะพูดไม่ได้ในเมื่อท่านก็พูดได้ตลอดเวลา ตอนนี้ขออภัย เดี๋ยวพาดพิงไปมาก็นับองค์ประชุมไม่สำเร็จ”
ทำให้นายพริษฐ์ ประท้วงว่าตนไม่ได้ไม่เคารพคำวินิจฉัยของท่านประธาน การใช้สิทธิ์เสนอนับองค์ประชุม ตนไม่ติดใจ แต่ที่ติดใจคือครั้งก่อนๆ ประธานอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนกันเล็กน้อยถึงเหตุผล แต่ทำไมเหตุใดครั้งนี้มีการเสนอนับองค์ประชุม ประธานกลับไม่อนุญาตให้แลกเปลี่ยนความเห็นแม้แต่นิดเดียว แค่ต้องการให้ใช้บรรทัดฐานเดียวกัน
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวชี้แจง ย้ำว่าเดี๋ยวท่านก็ไปแถลงต่อสื่อมวลชน แต่นายพริษฐ์ก็ตอบโต้จนทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนเข้าใจนายพริษฐ์เป็นอย่างดี ถึงบรรจุในวาระ
“ไม่ต้องส่ายหัวพูด ด้วยความจริงใจครับ ถ้าผมไม่จริงใจและผมไม่เห็นความสำคัญกับญัตติ ผมก็ไม่บรรจุ ถูกไหมครับ ผมบรรจุผมให้ความสำคัญกับคุณ แล้วคุณไม่เห็นความสำคัญของประธานเลย ผมว่าไม่ถูกนะครับ ประชาชนเขาฟังอยู่ ถ้าหากที่ประชุมครบ คุณพริษฐ์ก็เสนอได้ แต่ถ้าไม่ครบดำเนินการต่อไปไม่ได้ เราจะไปดื้อโดยเอาตามใจของแต่ละคนมันคงกระทำไม่ได้ ถ้าไม่เป็นกลาง คงไม่บรรจุตั้งแต่ต้น” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวก่อนกดออดขอนับองค์ประชุม
จังหวะนี้ นายพริษฐ์ ได้โต้ขึ้นมาว่า ตนไม่เคยระบุว่าประธานไม่เป็นกลาง
จากนั้น นางนันทนา นันทวโรภาส สว. ได้เสนอขึ้นมาว่าขอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าจะมีสมาชิกรัฐสภากี่คนและยินดีพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า การนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ เป็นไปตามข้อบังคับ แต่ข้อบังคับข้อที่ 56 กำหนดว่าการนับองค์ด้วยการขานชื่อ ต้องให้รัฐสภาอนุมัติ หากรับญัตติดังกล่าวต้องถามให้สมาชิกรัฐสภาอนุญาตและต้องตรวจสอบองค์ประชุม
ทั้งนี้บรรยากาศในห้องประชุมยังประท้วงวุ่นวาย ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ขอให้พักการประชุมเพื่อให้ทุกฝ่ายหารือร่วมกัน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ให้พักการประชุม 20 นาที ในเวลา 10.10 น. หลังจากที่ประชุมได้เปิดประชุมไปเพียง 30 นาที
จากนั้น 10.35 น. กาประชุมร่วมรัฐสภา กลับมาประชุมอีกครั้งหลังจากที่พัก 20 นาที โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ทราบถึงข้อกังวลของสมาชิกรัฐสภาในซีกรัฐบาลในการเดินหน้าแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับในวันนี้ และยืนยันว่าในฐานะตัวแทนของพรรคประชาชนเราไม่ได้ข้อกังวลดังกล่าวและมองว่าสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยได้แต่เมื่อมีข้อมูลเช่นนี้จากซีกรัฐบาลก็ได้มีการหารือกันว่าพอจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า เราจะเดินหน้าหาเรื่องนี้เกินไปและไม่เร่งนับองค์ประชุม ขอให้พักอีก 10 นาที
โดยนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวเสนอขอให้นับองค์ประชุมโดยการเสียบบัตร แทนการขานชื่อ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กดออดเรียกสมาชิกเพื่อจะขอมติว่าจะตรวจสอบองค์ประชุมด้วยวิธีการขานหรือเสียบบัตร
ผลปรากฏว่า มีองค์ประชุมจำนวน 175 คน ถือว่า ไม่ครบองค์ประชุม ขณะที่มียอดผู้เข้าประชุม 620 คน ทั้งนี้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน พยายามที่จะขอให้นับใหม่ แต่ไม่เป็นผล ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่าเมื่อองค์ประชุมไม่ครบขอปิดการประชุม และปิดในเวลา 10.47 น.
อย่างไรก็ตาม แม้ในห้องประชุมจะมีการถกเถียงกัน แต่ยังมีมุมน่ารักๆ ของสมาชิกที่ยืนทำมือสัญลักษณ์รูปหัวใจ เนื่องในวันวาเลนไทน์กัน. 312 .-สำนักข่าวไทย