ประชาชนเนืองแน่น ศน.จัดงานสัปดาห์ “มาฆบูชาอาเซียน” อุบลฯ-สปป ลาว

มาฆบูชาอาเซียน

8 ก.พ. – ศน.จัดงานสัปดาห์ “มาฆบูชาอาเซียน” สานสัมพันธ์อาเซียน ไทย-ลาว วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว – วัดหลวงปากเซ แขวงจำปาสัก 8-9 ก.พ.68


กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดงานสัปดาห์ “มาฆบูชาอาเซียน เพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับประเทศอาเซียน ในมิติศาสนาและวัฒนธรรม” จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568 โดยมีนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธาน พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี และประชาชน เข้าร่วม ณ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กรมการศาสนาร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี จัดงานสัปดาห์ “มาฆบูชาอาเซียน เพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับประเทศอาเซียน ในมิติศาสนาและวัฒนธรรม” จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2568 ณ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี และ วัดหลวงปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในมิติทางพุทธศาสนา สานสัมพันธ์อาเซียน เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา โดยการนำกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มาใช้เป็นสื่อกลางสานสัมพันธ์อันดีของประเทศในภูมิภาคอาเซียน และนำมิติด้านศาสนา วัฒนธรรม มาเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ไทย-ลาว อีกทั้งในปี พ.ศ. 2568 เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบรอบ 75 ปี โดยประเทศไทย จัดพิธีทางพุทธศาสนา และกิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในมิติศาสนาและวัฒนธรรม มีการสาธิตจัดทำขันหมากเบ็ง การสาธิตจัดดอกไม้บูชาถวายพระ การสาธิตจัดชุดดอกไม้เวียนเทียน การจัดแสดงสินค้าชุมชนคุณธรรมพลังบวร OFOS การแสดงดนตรีชุด “สายธรรมแห่งมหานทีสีทันดอน” ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ณ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี


และในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาและกิจกรมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบรอบ 75 ปี โดยมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา และพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี 2 แผ่นดิน และรับชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมอาเซียนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมอาเซียน (ไทย-สปป ลาว) ณ วัดหลวงปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดภูพร้าว หรือ วัดเรืองแสง เดิมพื้นที่ตั้งวัดเป็นป่า มีหน้าผาสูง ไม่มีแหล่งน้ำ จึงไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ จนราว พ.ศ. 2495-2498 พระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ เดินทางจากประเทศลาวมาพักปักกลดที่ภูพร้าว และให้ชื่อว่า “วัดภูพร้าว” ต่อมาราว พ.ศ. 2516–2517 พระอาจารย์บุญมากได้เดินทางกลับไปยังวัดภูมะโรง เมืองจำปาสัก เนื่องจากเกิดความไม่สงบทางการเมืองในประเทศลาว วัดภูพร้าวจึงถูกปล่อยร้างเรื่อยมา เมื่อ พ.ศ. 2535 อำเภอสิรินธรได้แยกตัวออกจากอำเภอพิบูลมังสาหาร จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น “วัดสิรินธรวราราม” ตามชื่ออำเภอ จน พ.ศ. 2542 พระครูกมลภาวนากร เจ้าอาวาสและผู้บูรณะพัฒนาวัดภูหล่น ตำบลสงยาง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้ามาบูรณะวัดจนได้รับอนุญาตตั้งวัดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 ในนาม “วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว” มีเนื้อที่วัดทั้งหมด 15 ไร่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 จุดเด่นของวัด คือ อุโบสถที่ผนังภายนอกมีงานพุทธศิลป์รูปต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการดูต้นไม้เรืองแสง คือ เวลา 18.00-20.00 น. ต้นกัลปพฤกษ์จะเรืองแสงโดดเด่นสะดุดตา และด้วยวัดนี้ตั้งอยู่บนภูเขา จึงกลายเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นทัศนียภาพอ่างเก็บน้ำและจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก ซึ่งในช่วงกลางวันต้นกัลปพฤกษ์ต้นนี้จะดูดแสงแดดเอาไว้ เมื่อตกกลางคืนก็จะปรากฏเป็นต้นไม้เรืองแสงงดงาม ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว

วัดหลวงปากเซ หรือ วัดโพธิ์ระตะนะสาสะดาราม เป็นวัดในปากเซ แขวงจำปาสัก ประเทศลาว อยู่บริเวณที่แม่น้ำเซโดนไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขง เกิดเป็นเส้นสายน้ำสองสีที่ตัดกันระหว่างน้ำเซสีเขียวเข้มกับน้ำของหรือน้ำโขงสีน้ำตาลอ่อน เป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 20 วัดในปากเซ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเซดอนใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำและสนามบิน มีภาพเขียนที่สวยงามมากมายเกี่ยวกับชีวิตของพระพุทธเจ้าและคำสอนของพระองค์ มีสวนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและประตูไม้ที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง นอกจากปากเซจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของลาวใต้แล้ว เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของลาวใต้อีกด้วย เพราะเป็นที่ตั้งของวัดหลวงปากเซ ศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมและแหล่งรวมจิตใจของชาวลาวใต้มาอย่างยาวนาน


อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า “วันมาฆบูชา” เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่บรรดาพระอรหันต์ จำนวน 1,250 รูป ตรงกับวันเพ็ญเดือน 3 หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 โอวาทปาติโมกข์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ได้แก่ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลักธรรมคำสอนดังกล่าวถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนได้รำลึกถึงพระคุณของพระองค์ด้วยการสวดมนต์ รักษาศีล และเจริญจิตภาวนา ศึกษาหลักธรรมและปฏิบัติกิจกรรม ถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อขัดเกลาจิตใจให้เป็นบุคคลที่มีคุณธรรมจริยธรรม สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นลำดับที่ 2 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอันดับที่ 5 ของประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีหลักฐานทางอารยธรรมทั้งประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่เก่าแก่ อาทิ ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง มีอาณาเขตติดกับจังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดยโสธร และจังหวัดศรีสะเกษ และมีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป ลาว) โดยมีแม่น้ำโขงกั้นกลางระหว่างสองประเทศ ซึ่งปัจจุบันศาสนามีบทบาทสำคัญทางด้านการเมืองสังคม สันติภาพ สันติสุข ความมั่งคงของรัฐทั้งภายในประเทศ และด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนและสังคมรอบข้างโดยในประชาคมโลกการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ภาพรวม ให้สังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรมจริยธรรม จรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่ชาติไทยสืบไป. -612 สำนักข่าวไทย

บท – อรวรรณ เผือกไธสง
ภาพ – ปวริศ สมเพราะ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว