รวบเครือข่ายขนยาเสพติด ยึดทรัพย์กว่า 13 ล้านบาท

7 ก.พ.- สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยภาคีปฏิบัติการ จับกุมผู้ต้องหา 2 คน เครือข่ายลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ พื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา ยึดทรัพย์สินกว่า 13 ล้านบาท


พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 04.30 น. สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ศอ.ปส.ภ.5, ภ.จว.พะเยา, สภ.ดอกคำใต้, สภ.ปง สภ.ภูซาง, นบ.ยส.35 และฝ่ายปกครอง อ.ปง จ.พะเยา จับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ  นายท้ง (สงวนนามสกุล) และ น.ส.รุ่งอรุณ (สงวนนามสกุล) พร้อมยาบ้า 196,000 เม็ด ซุกซ่อนภายในช่องลับท้ายกระบะรถยนต์ ได้ที่ อ.ปง จ.พะเยา

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า  การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. สืบสวนข้อมูลทางการข่าวพบว่า เครือข่ายลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ ในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง มักจะซุกซ่อนยาเสพติดในยางอะไหล่ หรือตามช่องลับภายในรถยนต์ โดยใช้บุคคลภายในครอบครัวร่วมกันลำเลียงยาเสพติด ตนจึงได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. มอบหมายชุดปฏิบัติการ สืบสวนติดตามพฤติการณ์ และความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว  เพื่อนำไปสู่การจับกุม และขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ชุดปฏิบัติการได้ดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติการณ์เครือข่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องโดยใช้ระยะเวลาร่วม 2 เดือน กระทั่งวันที่ 5กุมภาพันธ์ 2568 พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย 2 คัน ที่คาดว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวใช้ลำเลียงยาเสพติด ขับออกจากพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา มุ่งหน้า อ.ปง จ.พะเยา โดยมีลักษณะขับติดตามกัน


กระทั่งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 04.30 น. ชุดปฏิบัติการ สามารถสกัดจับรถยนต์ 1 คัน ที่ใช้บรรทุกยาเสพติด พร้อมผู้ต้องหา 2 คน คือ   นายท้ง แซ่ว่าง และ น.ส.รุ่งอรุณ มีอีก พร้อมยาบ้า 196,000 เม็ด     ซุกซ่อนภายในช่องลับท้ายกระบะรถยนต์ ได้ที่ อ.ปง จ.พะเยา ส่วนรถยนต์นำทาง อาศัยความชำนาญเส้นทางในพื้นที่หลบหนีไปได้ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับการติดต่อจากชายชาวเขาเผ่าม้งให้ไปรับยาเสพติดที่วางทิ้งไว้ข้างทาง ในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ อ.บ้านหลวง จ.น่าน ทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกได้รับค่าจ้าง 60,000 บาท

ต่อมาชุดปฏิบัติการขยายผลตรวจค้นบ้านพัก 2 แห่ง ในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่พบม้วนเทปกาวสีดำจำนวนมาก (ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาใช้พันรอบห่อยาเสพติดของกลาง) และทำการตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิเช่น รถยนต์ ที่ดิน อายัดเงินในบัญชีธนาคาร รวมมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสืบสวนพิสูจน์ทราบบุคคลในขบวนการลำเลียง     ยาเสพติดเพิ่มเติมแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่ผ่านมาพบว่าเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ยังคงมีความพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากบริเวณพื้นที่ชายแดน เข้าสู่พื้นที่ตอนใน ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีจะเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นยาเสพติดตามพื้นที่แนวชายแดน รวมทั้งใช้มาตรการขยายผลการสืบสวนเพื่อติดตามหาทรัพย์สินและผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดทั้งหมดมาดำเนินคดีไปควบคู่กัน โดยมีเป้าหมายเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดอย่างเป็นระบบต่อไป .119.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด