ทำนียบ 4 ก.พ. – สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำไม่แทรกแซงเรื่องภายใน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ประชุมด่วน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ฝ่ายการธุรกิจและการตลาด เข้าร่วมประชุม โดยมีวาระสำคัญ คือการหารือ ตัดการจ่ายไฟฟ้าประเทศเพื่อนบ้าน หลังมีข้อมูลว่า มีการนำไฟฟ้าไทยไปให้กับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ใช้
ภายหลังประชุมกันนานเกือบ 2 ชั่วโมง นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า หลังจากมีการหารือกับทุกภาคส่วนแล้วเห็นว่าเรื่องนี้กระทบต่อความมั่นคงของคนไทย มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 550,000 คดี ซึ่งในแต่ละคดีมีผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 86,000 ล้านบาท เฉลี่ยสูญเสียเงินกว่า 80 ล้านบาทต่อวัน จึงถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชน จึงมีมติให้ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ทั้งหมด 5 จุด ตั้งแต่ 9 โมงเช้าพรุ่งนี้เป็นต้นไป โดยให้แจ้งทุกภาคส่วน เพื่อส่งเรื่องไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงสถานพยาบาลให้รับรู้เพื่อเตรียมการ
ทั้งนี้ นายภูมิธรรมยืนยันว่า จากข้อมูลพบว่าทั้ง 5 ห้าจุดที่จะถูกตัดไฟฟ้าในเมียนมามีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่หากจะต้องไปเกี่ยวพันกับคน ก็ถือว่าเมียนมาต้องมีส่วนรับผิดชอบ เพราะถือว่าความทุกข์ที่ประชาชนคนไทยเผชิญอยู่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดูแล ซึ่งทางการไทยได้แจ้งไปยังเมียนมาแล้วว่า ทั้ง 5 จุดนี้กระทบต่อความมั่นคงภายในของเรา ส่วนหลังจากนี้ทางเมียนมาจะดำเนินการอย่างไร เราไม่เข้าไปแทรกแซง เป็นเรื่องภายในของเขา ซึ่งเรื่องนี้จะไปสอดรับกับการซีลชายแดนทั้ง 51 จุด โดย สมช. จะแจ้งเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกังวลหรือไม่ว่าทางเมียนมาจะมีการตอบโต้ โดยการส่งแก๊สให้ไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้เคยมีการหารือแล้ว ซึ่งเมียนมาเข้าใจว่าเราต้องดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของไทย แต่เป็นปัญหาของนานาชาติ เพราะบุคคลที่ถูกหลอกมาจากหลายชาติ
หลังจากนี้ จำเป็นจะต้องพิจารณาตัดไฟที่ส่งไปยังกัมพูชาด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่าวันนี้พิจารณาเฉพาะเรื่องเมียนมาก่อน
ส่วนจุดไหนที่มีการตัดไฟไปแล้ว แต่มีการลักลอบต่อไฟไปใช้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปดำเนินการตามจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนก็จะดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะที่การดำเนินการเอาผิดบริษัทคู่สัญญานั้น นายภูมิธรรมระบุว่าวันนี้พิจารณาแค่เรื่องตัดไฟก่อน
สำหรับ จุดตัดไฟทั้งหมด 5 จุด ได้แก่
- บ้านเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ บริษัท Mya Pan Investment and Manufacturing Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- บ้านเหมืองแดง-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- สะพานมิตรภาพไทย-พม่า-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- สะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง บริษัท Nyi Naung Oo Company Limited และ Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- บ้านห้วยม่วง-อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มีบริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited (SMTY) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา-313 .-สำนักข่าวไทย