รัฐสภา 3 ก.พ. – “ประเสริฐ” ตอบกระทู้ สว. ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ คาด ก.พ. นี้ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ประกาศใช้ เผยผลทำงานของศูนย์เอโอซี ยังรับเรื่องร้องเรียน 3,000 สายต่อวัน มูลค่าความเสียหายลดลง 40% เตรียมพัฒนาแอปพลิเคชันแจ้งตัวตนเมื่อโทรฯ มา
การประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ช่วงกระทู้ถามเป็นหนังสือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตอบคำถามเรื่องการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามและหลอกลวงทางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย และการบริการโทรคมนาคม ตั้งถามโดย นายสุทนต์ กล้าการขาย สว. ตอนหนึ่งว่า ครม. ผ่านความเห็นชอบ การแก้ไข ร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่…) พ.ศ…. เมื่อเดือน ม.ค. และขณะนี้ อยู่ระหว่างที่กฤษฎีกาดูรายละเอียดเล็กน้อย ทั้งนี้คาดว่าจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาภายในเดือนก.พ.นี้ สำหรับสาระสำคัญ ของร่าง พ.ร.ก. อาทิ ให้ธนาคารรายงานข้อมูลการเงินต่อ ป.ป.ง. เพื่อให้การคืนเงินแก่ผู้เสียหายทำได้รวดเร็ว และมีกำหนดโทษผู้ที่ซื้อขาย หรือ เปิดเผยส่วนบุคคล ทั้งที่ทำเพื่อการค้าหรือเสนอว่าจะให้ รวมถึงให้สถานบันการเงิน ผู้ประกอบการโทรคมนาคม สื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน หากไม่ระมัดระวังต่อการดูแลระบบที่ปลอดภัย
“ร่างพ.ร.ก.นี้ มีบทกำหนดเรื่องการคืนเงินผู้เสียหาย กำหนดธนาคารรายงานธุรกรรมการเงินต่อ ป.ป.ง. หากตรวจสอบได้ จะกำหนดการคืนเงิน โดยให้ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ง. ได้ ทำให้กระบวนการคืนเงินจะทำได้รวดเร็ว นอกจากนั้นแล้ว กรณีที่มีการปล่อยให้ส่งข้อความดูดเงิน ผู้ให้บริการต้องมีส่วนรับผิดชอบ” นายประเสริฐชี้แจง
นายประเสริฐ ตอบคำถามถึงมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดปัญหา รวมถึงการพัฒนาระบบเตือนภัยออนไลน์ผ่านการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการพนันออนไลน์ ว่า สำหรับการพนันออนไลน์ตนจะรับไปพิจารณาอีกครั้ง ส่วนการแก้ปัญหาซิมม้าทางกระทรวงได้ตรวจสอบการถือครองและมีมาตรการให้ศูนย์บริการโทรศัพท์และกสทช. ให้ผู้ที่ถือครองซิมจำนวนมากมาชี้แจง รวมถึงการตรวจสอบการโทรศัพท์ที่เกิน 100 สายต่อวันว่ามีเหตุผลอะไร หากไม่สามารถตอบเหตุผลที่เพียงพอได้ จะระงับซิมโทรศัพท์
“การเปิดซิมบัญชีม้า ปัจจุบันมีราคาหมื่นบ้าน ส่วนบัญชีนิติบุคคลมีราคาหลักแสน ซึ่งกระทรวงได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้จากการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือ ศูนย์เอโอซี 1441 เพื่อรับเรื่องร้องเรียน ตั้งแต่เริ่มต้นทำงานพบว่ามีการร้องเรียน ประมาณ 3,000 สายต่อวัน ส่วนปัจจุบันยังจำนวนเท่าเดิม แต่พบว่ามียอดความเสียหายต่อวันลดลง 40% ทั้งนี้ยอมรับว่ายังมีความเสียหายอยู่ต้องทำงานหนักเพื่อบูรณาการการทำงาน และยกระดับช่วยเหลือประชาชน โดยคาดว่าจะเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว” นายประเสริฐ ชี้แจง
รมว.ดีอี ชี้แจงถึงมาตรการป้องกันระยะยาวด้วยว่า รัฐบาลพัฒนาระบบการป้องกันการโทรศัพท์หลอกหลวง คือระบบจะเสร็จในเวลาอันใกล้ โดยเมื่อระบบเสร็จแล้ว เมื่อใครลงแอปพลิเคชันแล้วจะทราบว่าผู้ใดโทรศัพท์เข้ามา รวมถึง การยืนยันตัวตนให้เข้มข้น ขณะที่ศูนย์เอโอซี 1441 ให้บริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงมีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โดย 1 เดือนมีข่าวปลอมเป็นล้านข่าวต้องคัดและลบทิ้ง ดังนั้นแพลตฟอร์มออนไลน์หากปล่อยให้เกิดไม่ใช้ระบบป้องกันเพียงพอต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหาย.-319 -สำนักข่าวไทย