เตือนภัยออนไลน์ สั่งกระเป๋าแบรนด์เนมได้ “ขนมบูด”

ปทุมธานี 14 เม.ย. – ทันตแพทย์หญิงรายหนึ่งสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมทางออนไลน์ ซึ่งโพสต์ขายใน IG ร้านรับฝากขายชื่อดัง แต่เมื่อโอนเงินไปให้แล้ว กลับได้สินค้าเป็นขนมบูดหมดอายุ และขวดครีมกันแดด จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบเป็นขบวนการร่วมกันวางแผนอย่างแยบยล สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 และสืบสวนนครบาล บุกจับคาเทศกาลสงกรานต์


เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน. PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ออกรัมย์, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา, จ.ส.ต.คมสันต์ สุดตานา, ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.พรณภา อายุ 33 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1094/2566 ลงวันที่ 7 เม.ย.66 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมตัวที่หอพัก ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 

พฤติการณ์กล่าวคือ มีทันตแพทย์หญิงรายหนึ่งได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ว่าถูกมิจฉาชีพรายหนึ่งหลอกลวงขายกระเป๋าแบรนด์เนม มือสอง ในราคา 57,000 บาท ซึ่งต่อมาเมื่อสินค้าส่งมาถึง กลับเป็นครีมกันแดด โลชั่นทาผิว และขนมบูด (หมดอายุ) จำนวน 3 กล่อง ซึ่งเมื่อผู้เสียหายติดต่อกลับไปหา มิจฉาชีพรายนี้จะอ้างว่า “ส่งผิด, เดี๋ยวจะส่งให้ใหม่” และท้ายสุดก็จะบ่ายเบี่ยงและไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ได้สืบสวนสอบสวนจนทราบข้อมูลว่า มิจฉาชีพรายนี้ก่อเหตุลักษณะนี้ในห้วง 30 มี.ค. ถึง 5 เม.ย.66 มาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง ซึ่งทุกรายจะสั่งซื้อกระเป๋า แต่ได้รับสิ่งของเฉกเช่นเดียวกับทันตแพทย์หญิง ซึ่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัส ผบ.ตร. ได้วิเคราะห์แผนประทุษกรรมโดยละเอียดแล้วพบว่า มิจฉาชีพรายนี้ไม่ธรรมดา


โดยเมื่อมิจฉาชีพรายนี้ได้รับเงินโอนจากผู้เสียหายแล้ว จะทำการสั่งซื้อของออนไลน์จากร้านค้าอื่นๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ ให้ส่งสินค้าซึ่งไม่ใช่กระเป๋าแบรนด์เนมไปให้กับผู้เสียหาย เพื่อเบี่ยงประเด็นให้เข้าใจว่าตัวมิจฉาชีพอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ และสาเหตุที่มิจฉาชีพรายนี้ส่งของซึ่งไม่ใช่กระเป๋าแบรนด์เนมไปให้ผู้เสียหาย เพื่ออ้างว่าเป็นการ “ส่งผิดที่, ส่งสลับกับลูกค้ารายอื่นๆ” ไม่ได้เป็นการฉ้อโกง ซึ่งถือว่ามิจฉาชีพรายนี้มีการวางแผน กำหนดรูปแบบมาเพื่อก่อเหตุเป็นอย่างดี

ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน. PCT5 ได้สั่งการ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา กับพวก ให้ชุดสืบสวนอำพรางการแต่งกายอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถจับกุมตัว น.ส.พรณภา ตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และจากการตรวจค้นห้องพัก พบสมุดบันทึกซึ่งปรากฏหมายเลขบัญชีที่ได้เปิดไว้ใช้ในการก่อเหตุหลายบัญชี และสลิปการโอนเงินต่อไปยังผู้ร่วมขบวนการ จึงยึดไว้เป็นของกลาง

ในชั้นจับกุม น.ส.พรณภา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า “ตนเองว่างงาน ไม่มีรายได้ เพื่อหาเงินให้ลูกไปเข้าโรงเรียน จึงคิดอยากจะหารายได้เสริม และได้มีเฟซบุ๊กชื่อว่า ItsmeCatuii ส่งข้อความมาหา โดยแจ้งว่า “รับสมัคร แอดมิน เลขา ขอคนมีเวลาตอบไลน์เร็ว รายได้ 1,000-1,500 บาท/วัน รายเดือน 25,000-30,000 บาท/เดือน ไม่มีค่าสมัคร ถูกกฎหมาย 100%” โดยบอกขั้นตอนการทำงาน คือ 1. รับโอนเงินจากลูกหนี้ 2. ถ่ายรูปเวลาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอม 3. กดถ่ายรูปเสร็จให้นำเงินที่ถ่ายรูป ฝากให้ลูกหนี้ที่จะกู้เงินอีกทีหนึ่ง โดยใช้ตู้ฝากเงิน 4. ทำรีวิวแชทถือเงินสด งานไม่ผิดกฎหมาย ไม่เสียค่าสมัคร โดยตนได้เริ่มทำงานกับผู้ใช้บัญชีไลน์คนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2566 จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2566 จำนวนประมาณ 10 ครั้ง โดยจะได้รับค่าตอบแทนในการทำงานแต่ละครั้ง เป็นเงินจำนวน 500-1,000 บาท ซึ่งตนยอมรับว่าได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนทั้งหมดประมาณ 6,000 บาท และรู้สึกเสียใจมาก เพราะบทลงโทษไม่คุ้มได้คุ้มเสีย อีกทั้งตัวผู้ร่วมขบวนการยังเอาบัตรประชาชนของตนไปปลอมแปลงและวางไว้บนสินค้าเพื่อขายในโลกออนไลน์อีก” เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดี


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน. PCT5 กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนตอนนี้มีคนร้ายร่วมกระทำความผิดไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยบางรายพฤติกรรมเข้าข่ายลักษณะการฟอกเงิน ซึ่งเราจะมีการขยายผลจนถึงที่สุด โดยขอเตือนไปยังประชาชนว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะแฝงตัวอยู่ในกลุ่ม IG ที่เป็นร้านรับฝากขายสินค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ และจะก่อเหตุกับเหยื่อที่ชอบซื้อของออนไลน์ที่มีพฤติกรรมโอนไว โอนเต็มจำนวนก่อน โดยไม่รอให้เก็บปลายทาง พวกนี้จะตกเป็นเหยื่อ จึงขอแนะนำการป้องกันในเบื้องต้นว่า ให้ตรวจสอบด้วยการนำชื่อสกุลจริงบัญชีที่จะทำการโอนเงิน ตรวจสอบใน Google ก่อนในเบื้องต้น หรือสามารถติดต่อปรึกษามาที่เพจ สืบสวนนครบาล IDMB ซึ่งเราจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และสุดท้ายนี้ขอให้ประชาชนคนไทยมีความสุขในวันสงกรานต์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย