นนทบุรี 31 ม.ค. – ชายวัย 47 ปี ผุดไอเดียเอายาบ้ามาแบ่งใส่ถุง “แขวนขาย” เหมือนขนมร้านชำ สุดท้ายไม่รอดถูกรวบ ยังอ้างขายให้แค่คนใกล้ตัว
นี่เป็นยาบ้าแบบแผงที่ตำรวจยึดไว้เป็นของกลาง ภายหลังบุกรวบตัวนายรังสรรค์ ผู้ขาย และชาวกัมพูชา ผู้ซื้อ ขณะทั้งคู่กำลังซื้อขายยาเสพติดอยู่หน้าเพิงพักแคมป์คนงานในซอยวัดปากคลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ตำรวจค้นตัวนายรังสรรค์ พบยาบ้าสีส้ม 192 เม็ด ไอซ์ 9 ถุง หนัก 4.82 กรัม สร้อยคอทองคำลายโซ่ 2 สลึง ส่วนชาวกัมพูชา ผู้ซื้อ พบยาบ้า 6 เม็ดติดตัว เมื่อตำรวจพาทั้งคู่ไปตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาล พบปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้งคู่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาขายยาบ้า ไอซ์ และเสพยาเสพติดให้โทษ
อย่างไรก็ตาม ก่อนแจ้งข้อหาตำรวจบอกว่านายรังสรรค์เล่าให้ฟังว่าปกติทำงานก่อสร้าง อาศัยอยู่ในแคมป์คนงาน และทำอาชีพเสริมขายยาเสพติดให้กับคนงานใกล้เคียง ไม่ได้ไปขายคนอื่นมั่วๆ
ส่วนที่ทำยาใส่ซอง ใส่กระกระเป๋า หรือแขวนไว้ พร้อมติดเรียงและแปะเลขตามจำนวน เพราะกลัวยาหาย อีกอย่างเวลาคนมาซื้อจะดึงออกได้ง่ายเหมือนตามร้านค้าทั่วไปที่แปะถุงขนม โดยส่วนตัวรับซื้อยาบ้ามาถุงละ 2,800 บาท เอามาแบ่งใส่ถุงขาย ถุงละ 10 เม็ด เม็ดละ 30 บาท แต่ไอซ์จะชั่งเป็นกรัมขาย ส่วนเพื่อนชาวกัมพูชา เพิ่งรู้จักกันไม่นาน และไม่ได้ทำงานอยู่ที่เดียวกัน วันนี้เพื่อนแวะมาซื้อยา ทำให้โดนจับมาด้วย ยอมรับว่าเคยทำใจเอาไว้แล้วว่าสักวันต้องโดนตำรวจจับ อยากจะขายตรงที่แปะไว้ให้หมดก่อนแล้วเลิกทำ แต่ปรากฏว่าคนมาซื้อเยอะ บางวันไม่พอขาย ทำให้หยุดไม่ได้
ขณะที่ตำรวจตรวจสอบบัญชีธนาคารนายรังสรรค์ พบว่าในแต่ละเดือนบัญชีมีเงินหมุนเวียน 400,000-500,000 บาท และตอนตรวจสอบยังมีเงินค้างบัญชีอยู่อีก 80,000 บาท นายรังสรรค์ ให้การว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินเก็บสะสมที่ได้มาจากการขายยาทั้งสิ้น แต่ทองที่อยู่ในกระเป๋าไม่ได้ใช้เงินที่ได้มาจากการขายยา แต่เอาเงินที่ได้จากงานก่อสร้างมาซื้อ และซื้อไว้นานแล้ว
ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เตรียมตรวจสอบและขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการในการค้ายาของนายรังสรรค์ เพื่อกวาดล้างให้สิ้นซาก .-สำนักข่าวไทย