พบเบาะแสมือยิง นศ.อุเทนฯ มากัน 2 คน อำพรางใบหน้ามิดชิด

กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – พบเบาะแสมือยิง นศ.อุเทนฯ มากัน 2 คน อำพรางใบหน้ามิดชิด พฤติการณ์คล้ายทุกปี คือก่อเหตุก่อนวันสถาปนาสถาบัน ด้าน รองผบช.น. ขอเวลา ยังไม่ฟันธง ศึกสถาบัน แต่ยอมรับรูปแบบก่อเหตุใกล้เคียงปีที่ผ่านมา


พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวแทนสถาบันการศึกษา ประชุมวางแผนมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย 1 กพ. หรือ Blue day โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับฝ่ายสืบสวนที่ สน.ปทุมวัน คาดว่ามีผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ 2 ราย แต่ยังพิสูจน์ทราบได้ไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร ขี่รถจักรยานยนต์ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมหรือไม่ พบการปิดบังอำพรางรูปพรรณสัณฐาน ทั้งการสวมหมวกกันน็อค สวมเสื้อคลุม รองเท้าผ้าใบและกางเกงขายาวอย่างมิดชิด ส่วนเรื่องของอาวุธปืนนั้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเศษกระสุนขนาด .38 แต่ไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ปืนลูกโม่ในการก่อเหตุ


ทั้งนี้ เชื่อได้ว่าผู้ก่อเหตุมีแรงจูงใจที่หวังผลให้ถึงแก่ชีวิต แต่สาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้จะมาจากเรื่องของสถาบันหรือเรื่องส่วนตัว ขอให้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลก่อน ยังไม่สามารถให้ข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ แต่ทางตำรวจจะยังไม่คงตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออก

อย่างไรก็ตาม แผนประทุษกรรมของผู้ก่อเหตุนั้นมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์และช่วงเวลาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาวันจัดงานสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หรือวัน Blue Day จึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุได้เตรียมการวางแผนการก่อเหตุ การหาเป้าหมาย และเส้นทางการหลบหนีเป็นอย่างดี ซึ่งเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุได้พยายามหลบหนีอย่างสุดชีวิต ดังนั้นหลังจากนี้ ทางตำรวจจะสืบสวนสอบสวนขยายผลและรวบรวมพยานฐานเพิ่มเติมเพื่อสามารถพิสูจน์ทราบผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายได้อย่างแน่ชัด โดยเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ การประชุมในวันนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เน้นย้ำในเรื่องของมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เนื่องมีความห่วงใยประชาชนจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีประชาชนถูกลูกหลง เป็นเพียงนักศึกษาที่ถูกยิง แต่ก็มีโอกาสที่ประชาชนจะถูกลูกหลงซ้ำรอยเหมือนเหตุการณ์ที่คลองเตยได้ เพราะในพื้นที่อุเทนถวายอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้ตำรวจฝ่ายปราบปราม ฝ่ายสืบสวนและตำรวจกองบังคับอารักขาและควบคุมฝูงชน ปรับมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยได้มีการจัดกำลังเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 2 สถาบัน ที่อาจมีปัญหากัน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและเพิ่มจุดตรวจสกัดจับตรวจค้นบุคคลที่อาจจะมีลักษณะต้องสงสัย จำพวกบุคคลที่สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ซ้อนรถจักรยานยนต์ 2 คน หรือพบพิรุธที่แผ่นป้ายทะเบียนรถ เช่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถหรือมีร่องรอยที่เชื่อว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม


ซึ่งที่ผ่านมา ทางตำรวจได้จัดเตรียมแผนการเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในช่วงวัน Blue Day มาโดยตลอด แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่พบการข่าวที่น่าสงสัยว่าจะมีการก่อเหตุ ร้ายแรงขึ้นอีก แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังสามารถอาศัยจังหวะในการฉวยโอกาสก่อเหตุได้ ดังนั้น ในวันนี้จึงได้ให้ทางตำรวจได้ปรับแผนการเพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในช่วงวัน Blue Day เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รวมระดมพลที่บริเวณด้านหน้า สน.ปทุมวัน เพื่อปล่อยแถวไปประจำจุดเฝ้าระวังเหตุในช่วงระหว่างวันสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หรือวัน Blue Day โดยได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังตรวจค้นและสกัดจับผู้ต้องสงสัยที่มีความผิดปกติที่อาจจะมาสร้างสถานการณ์ รวมทั้งเน้นเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดอันก่อให้เกิดอันตรายแก่พี่น้องประชาชน

ส่วนบรรยากาศบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเฝ้าตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยทั้งด้านในและด้านนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งจากการสังเกตเห็นว่ายังคงมีนักศึกษาบางส่วนทำกิจกรรมและเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดงานวัน Blue Day

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุเพื่อบันทึกภาพและตรวจสอบเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุประกอบสำนวนคดี. -415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ฮอกกี้ไทย

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพจีน

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพ “จีน” เย็นนี้ หลังเดินทางถึงนครฮาร์บิน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9

ระเบิดปัตตานี

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 จ.ปัตตานี ตำรวจเจ็บ 4 นาย

ลอบบึ้มริมถนนสาย 43 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ชาวบ้านเผยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่เป็นปกติทุกวัน คาดคนร้ายเฝ้าสังเกตพฤติกรรมต่อเนื่อง

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง