กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – ตำรวจคุมตัว 3 ผู้ต้องหา “แก๊งนกต่อ” ทำแผนลวงคู่อริมาฆ่า สารภาพดักซุ่มหวังเอาชีวิต แต่ยังไม่ยอมเปิดปากสาเหตุความแค้น คาดเคยถูกคู่กรณีแจ้งเบาะแสยาเสพติด
เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (28 ม.ค.) ตำรวจแถลงจับกุมนายนพดล หรือ จุ้ย, นายนพคุณ หรือ ออฟ และนายศัตยญา หรือ กาญ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 2 คัน ซึ่งทั้งหมดดักรอทำร้าย ใช้ปืนยิงนายพงศกร บาดเจ็บที่ขา ขณะที่นายสุธิเกียรติ หรือ เอี้ยง วิ่งหนีได้ทัน โดยผู้เสียหายถูกลวงมาทำร้ายผ่าน “นางนกต่อ” น.ส.สุพัตรา อายุ 26 ปี เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาวันนี้ (29 ม.ค.) ตำรวจ สน.ทุ่งครุ นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเอ (นามสมมติ) หัวหน้าของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เล่าให้ฟังว่า นายเอี้ยง พยายามจะแจ้งเบาะแสนายเอ ให้ตำรวจมาจับ จึงโกรธแค้น และจ้างวานให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปจัดการฆ่าปิดปากนายเอี้ยง เพื่อจบปัญหา โดยให้ค่าจ้างวาน 10,000 บาท หลังจากเสร็จงาน แต่ระหว่างที่รอเวลาก่อเหตุ นายเอ ให้เงินใช้วันละ 100 บาท เป็นค่าข้าว
กระทั่งวันก่อเหตุ ผู้ต้องหาพาไปชี้จุดดักซุ่มบริเวณป่ารกร้าง ซอยประชาอุทิศ 76/1 เพื่อรอสัญญาณให้ออกมารุมทำร้ายผู้เสียหาย หลังก่อเหตุแล้ว ผู้ต้องหานำรถและปืนไปทิ้งบริเวณใต้สะพานข้ามคลองบางมด ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกรอบนอกตอนใต้ ก่อนแยกย้ายกันขึ้นแท็กซี่หลบหนี
ด้าน น.ส.สุพัตรา ทำหน้าที่เป็นนางนกต่อ ให้การว่า ตนเองแอดเฟซบุ๊กนายเอี้ยง เพื่อพูดคุย ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. และคุยต่อเนื่อง 5 วัน เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ ก่อนทำทีนัดเจอกันวันที่ 26 ม.ค. ซึ่งวันนั้น นายเอี้ยง มากับเพื่อน ตนจึงถามไปว่า “ตกลงหนูคุยกับใคร” นายเอี้ยง ก็ยกมือและตอบว่า “คุยกับผม” จากนั้นตนจึงส่งสัญญาณให้ผู้ต้องหาอีก 3 คน ก่อเหตุ
พ.ต.อ.จุมพล สินศิริพงษ์ ผกก.สน.ทุ่งครุ เผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดสารภาพและให้การสอดคล้องกัน แต่ในจุดที่ 2 ตำรวจยังค้นปืนที่ผู้ต้องหาอ้างทิ้งไว้ไม่พบ แต่พยายามค้นหาต่อ และอยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวการผู้จ้างวาน เพื่อดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย, ร่วมกันพยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง, ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร และพกปืนไปในทางสาธารณะ โดยจะส่งฝากขังศาลอาญาธนบุรี ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าคนร้ายจะหลบหนี. – สำนักข่าวไทย
