รัฐสภา 15 ม.ค. – “ภราดร” เปิดคลิปแจง กระป๋องนมจากด้านบนหล่นกลางวง สส.เพื่อไทย ไม่มีมือดีขว้าง พบหมดอายุ ปี 2020 คาดคนงานทิ้งไว้ช่วงก่อสร้าง บอกโชคดีไม่ใช่ระเบิด ด้าน “ชลน่าน” ขอรัฐสภาขันน็อตความปลอดภัย หวั่นมีคนคิดร้ายวางระเบิดในสภาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้(15 ม.ค.) ที่มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายวิรัช พิมพะนิตย์ สส. กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ได้หารือ ถึงกรณี ที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว มีการขว้างกระป๋องนม หล่นลงมา กลางวงสส.พรรคเพื่อไทยระหว่างการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) ซึ่งไม่รู้ว่าหล่นมาจากที่ไหน และเกิดเหตุการณ์ทำให้รู้สึกว่า สภาแห่งนี้ไม่ปลอดภัย จึงอยากให้ประธานหาข้อเท็จจริง หากมีการขว้างกระป๋องนม น่าจะเป็นอันตรายต่อเพื่อนสมาชิก หากสส.หรือสว. เป็นผู้กว้างกล้องวงจรปิดน่าจะชัดเจนที่สุด และรู้ว่ามาจากไหน และ จะต้องใช้ มาตรฐานจริยธรรม ลงโทษหากมีการป่วนการประชุมแบบนี้ แต่หากหล่นมาจากฟ้าจะขอเป็นวัตถุมงคล และหากเป็นแผ่นตกลงมาจะเจ็บกว่ากระป๋องนม
ด้านนายภราดรระบุว่าโชคดีที่ไม่ใช่ระเบิดก่อนจะเปิดคลิปช่วงกระป่องกำลังหล่นมาจากด้านบน พร้อมชี้แจงว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดู พบว่าไม่ได้เป็นการเขวี้ยงมาจากเพื่อนสมาชิกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยเปิดกล้องวงจรปิดแล้ว ปรากฏว่าหล่นมาจากด้านบน ซึ่งตัวกระป๋อง กับตัวซองขนมที่อยู่ภายในกระป๋อง ระบุวันที่ไว้ชัดเจนว่า หมดอายุปี 2020 ซึ่งหมดอายุมา 5 ปีแล้ว หมายความว่าน่าจะเป็นการค้างอยู่ข้างบนเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว และได้หล่นลงมา ซึ่งมีภาพประกอบให้ทั้งรูปกระป๋องนมและ ซองขนม ที่ระบุหมดอายุปี 2020 ทั้งนี้ช่วงปิดสมัยประชุมตนได้ขึ้นไปตรวจด้านบนได้ไปดูว่า จะปรับปรุงเรื่องระบบเสียงอย่างไร พบว่ามีช่องที่สามารถหล่นลงมาได้ เป็นไปได้ว่า คนงานรับประทานไว้ช่วงก่อสร้างทิ้งไว้ด้านบน และตกค้างอยู่ จึงสืบหาข้อเท็จจริงมาให้
นายวิรัช กล่าวว่า ตนขอให้ตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย อยากให้ระวังแผ่นไม้หากเป็นแบบนี้โอกาสหล่นจะมีสูง หากหล่นในสส. หรือ สว. จะลำบาก
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย หารือด้วยว่ากับคำพูดของนายภราดรที่ระว่าโชคดีไม่ใช่ระเบิด แต่สถานที่นี้ต้องมีการรักษาความปลอดภัย หากเป็นระเบิดจริงอะไรจะเกิดขึ้น อย่าคิดว่าจะไม่เกิด เพราะคนคิดสั้นมาก มาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดต้องได้รับการพิจารณา อย่างไรหากมีมรรคมีผล กรรมาธิการกิจการสภาฯ ควรพิจารณาว่ามีช่องโหว่ และ ต้องปรับปรุงหรือไม่ โดยข้อบังคับมีมาตรฐานเพียงพอหรือไม่
“ผมสะดุ้งที่ท่านประธานบอกว่าโชคดีไม่ใช่ระเบิด แต่ได้ตรองดูแล้วต้องพิจารณา แม้แต่ขวดน้ำหรือกระป๋อง หรือแก้วที่ สมาชิกถือ หากเขาคิดร้าย ติดอะไรเข้ามา และมีผู้คิดร้ายกดปุ่มระเบิดขึ้นมาจะทำอย่างไร และหากเกิดเหตุจริงทุกอย่างจบ ทั้งนี้ในหมวดการรักษาความปลอดภัย ขอให้ประธานเคร่งครัดในการปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวม” นพ.ชลน่าน กล่าว
นายภราดร กล่าวต่อว่า ตนพูดจริงในประเด็นระเบิด หากเป็นวัตถุอันตรายจะไม่ดีต่อสภาฯ ตนพูดจริงเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าระรบบรักษาความปลอดภัยของสภาฯ มีปัญหาอยู่หรือไม่ จำเป็นต้องพิจารณา รวมถึงประเด็นที่สส.หารือ เช่น ไม้กั้นเข้าพื้นที่จอดรถของ สส. เป็นต้น ทั้งนี้ในปีงบประมาณปี68 และ 69 ต้องดำเนินการต่อไป.-319 -สำนักข่าวไทย