ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ ไปทรงสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ จ.เชียงใหม่

เสด็จเชียงใหม่

6 ม.ค. – เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568 เวลา 17.04 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีกองทหารเกียรติยศ, ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, อธิบดีผู้พิพากษาภาค5, แม่ทัพภาคที่3, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5, ข้าราช การชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ

จากนั้น พระราชดำเนินไปวัดพระสิงห์ เสด็จเข้าพระวิหารหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับพัดรองที่ระลึกตราสัญลักษณ์เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงวางพัดรองที่ระลึกฯ ที่โต๊ะหมู่หน้าพระประธานประจำพระวิหารหลวง เสร็จแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธศรีสรรเพชญ ทรงกราบ แล้วทรงศีล

พระพุทธศรีสรรเพชญ หรือหลวงพ่อโต เป็นพระประธานพระวิหารหลวง ลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ สันนิษฐานว่าเป็นพระประธานเดิมของพระวิหารหลวงหลังเก่า ก่อนสร้างขึ้นในสมัยครูบาศรีวิชัย พระวิหารหลวง เป็นสถาปัตยกรรมลานนา กว้าง 24 เมตร ยาว 46 เมตร ผนังและเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก เครื่องบนไม้สักล้วน หลังคามุงกระเบื้อง มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ มีมุขหน้าและมุขหลัง ส่วนพระวิหารหลวงเดิมเป็นแบบจตุรมุข ต่อมาได้ปรับปรุงให้เหลือเพียงมุขหน้าและมุขหลัง  


จากนั้น ทรงพระดำเนินไปพระวิหารลายคำ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ พระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาแต่โบราณกาล หล่อสำริดลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 1 เมตร สกุลช่างแบบเชียงแสน ในพระวิหารลายคำ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสังข์ทองและสุวรรณหงส์ สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเชียงใหม่ รวมทั้งมีปูชนียสถานสำคัญคือ “พระมหาธาตุเจดีย์” หรือพระธาตุหลวง เป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีมะโรง พญาผายูหรือพระเจ้าผายู ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นซึ่งในสมัยต่อมาพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เจ้าแก้วนวรัฐ  ครูบาศรีวิชัย และพุทฑศาสนิกชน ได้บูรณปฏิสังขรณ์และเสริมสร้างให้สูงใหญ่ ภายในองค์พระธาตุประดิษฐานพระเกศาธาตุ ปัจจุบันเป็นเจดีย์ทรงระฆังสีทองอร่าม ซึ่งแต่เดิมมีสีขาว

โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงชักสายสูตรห่มผ้าที่องค์พระธาตุเจดีย์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ กลองชุมประโคมถวายเป็นพุทธบูชา ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ แล้วทรงพระดำเนินไปพระวิหารหลวง ระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่านมีการฟ้อนถวายพุทธบูชา เป็นการฟ้อนเล็บประกอบวงกลองตึ่งโนงของนักศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่        
 
เมื่อเสด็จเข้าพระวิหารหลวง ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

วัดพระสิงห์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร พญาผายู สร้างขึ้นราวปีพุทธศักราช 1888 เพื่ออุทิศถวายพญาคำฟู เดิมชื่อวัดลีเชียงพระ ต่อมามีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ มาประดิษฐาน ประชาชนจึงเรียกว่า “วัดพระสิงห์” จนถึงปัจจุบัน

ปูชนียสถานสำคัญ ยังมีพระอุโบสถสองสงฆ์หอไตรโบราณ ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนประเดิมในการบูรณปฏิสังขรณ์ นอกจากนี้วัดยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนธรรมราชศึกษา เป็นโรงเรียนการกุศลสำหรับสามเณรและฆราวาส จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ปัจจุบัน พระเทพสิงหวราจารย์ โสภณ โสภโณ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์สามเณรจำพรรษา 95 รูป

ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปพระวิหารหลวง วัดเจดีย์หลวง อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทรงประกอบพิธีสมโภชพระอัฏฐารส และพระอัครสาวก พร้อมทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีกริกธาตุในยอดฉัตรทองคำ เพื่อเชิญไปประดิษฐานเหนือปราสาทเฟื้องสันหลังคาพระวิหาร

ในการนี้ ทรงสรงพระบรมสารีริกธาตุ และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระกรัณฑ์ แล้วทรงหยิบพระกรัณฑ์ลงในยอดฉัตรทองคำ จากนั้น พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในยอดฉัตรทองคำ แก่เจ้าพนักงานพระราชพิธี เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานที่บุษบกหน้าพระอัฏฐารส พระประธาน ประจำวิหารหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืน ปางประทานอภัย หรือปางห้ามญาติ  พระพุทธรูปประจำวัน จันทร์ วันพระบรมราชสมภพ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการบูรณะพระอัฏฐารส พระอัครสาวก แท่นแก้ว และชุดหน้าบันพระวิหารหลวง ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก แล้ว พระราชทานของที่ระลึกแก่ ผู้มีจิตศรัทธาบำรุงพระอาราม

เสร็จแล้วทรงพระดำเนินไปพระธาตุเจดีย์หลวง ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระธาตุเจดีย์หลวง ทรงกราบ เจ้าพนักงานพระราชพิธี ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้า แล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เพื่อเชิญไปถวายเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง จุดบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดเจดีย์หลวง ได้แก่ พระเจ้าอุ่มเมือง (เสาอินทขีล เสาหลักเมืองเชียงใหม่), พระเจ้าสมปรารถนา , พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) และรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง รูปที่ 2

วัดเจดีย์หลวง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง สร้างขึ้นในสมัยพญาแสนเมืองมา เจ้าหลวงพระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย อายุประมาณ 633 ปี เป็นพระธาตุที่มีความสูงที่สุดในภาคเหนือ ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงใหม่ด้วยเป็นวัดเก่า จึงทำให้เสนาสนะต่าง ๆ ทรุดโทรมตามกาลเวลา ประกอบกับฝนตกหนัก และเคยเกิดแผ่นดินไหว จึงทำให้พระธาตุเจดีย์หลวงพังทลาย กรมศิลปากรได้บูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จเมื่อปี 2535 พระเจดีย์หลวง อดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร นานกว่า 80 ปี ปัจจุบันเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดเจดีย์หลวง ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี 2481 ปัจจุบัน พระราชวชิรสิทธิ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ และสามเณร จำพรรษา 50 รูป

ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจครั้งนี้ มีราษฎรจากจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ต่างพร้อมใจมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดเส้นทางที่ทรงพระดำเนิน มีกลุ่มสตรีในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 500 คน ร่วมฟ้อนเทียนซึ่งเป็นวัฒนธรรมของภาคเหนือ อย่างงดงาม สมพระเกียรติจากแสงเทียนที่เป็นประกายขณะที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะของเสียงเพลง

จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร . -211 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน