“สว.นันทนา” รับหนังสือกลุ่มผู้เสียหายแชร์ AIMC Global

รัฐสภา 24 ธ.ค.-“สว.นันทนา” รับหนังสือกลุ่มผู้เสียหายแชร์ AIMC Global มูลค่ากว่า 241 ล้านบาท หลังยื่นเรื่องต่อดีเอสไอเงียบเกือบ 3 ปี คดีไม่คืบหน้า

กลุ่มผู้เสียหายแชร์ AIMC Global เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ขอให้ติดตามทวงถามคดี กรณีกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอลไอ) ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อให้ดำเนินคดี บริษัท AIMC Global หลังถูก
หลอกชักชวนร่วมลงทุนสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ แต่ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่โฆษณาไว้ ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันยังมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องเงินเยียวยาเงินคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป โดยขอให้ช่วยตรวจสอบ ติดตามการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อบริษัทดังกล่าว ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาสามารถใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 150 ร่วมตรวจสอบในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติอีกทางหนึ่งด้วย


สว.นันทนา กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก SCG CORPORATION หรือ AIMC GLOBAL หรือ MAXNA INFINITY ชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทนในสกุลเงินดิจิตอลเหรียญคริปโต (USDT) ผ่านเอ็กเช้น โดยโฆษณาจูงใจด้วยผลตอบแทนสูงอ้างว่าจะนำไปลงทุนในธุรกิจที่มีกำไรดี แต่สุดท้ายเราไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่โฆษณาไว้ ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันไปร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นครั้งแรก ต่อมาในวันที่ 17 ม.ค. 65 ทางดีเอสไอ มีหนังสืบแจ้งกลับว่า แจ้งรับเรื่องไว้แล้วอยู่ในระหว่างการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเบื้องต้น ในวันที่ 26 ม.ค.65 ทางดีเอสไอ มีหนังสือแจ้งกลับตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้พิจารณากรณีดังกล่าว และมอบหมายให้กองบริหารคดีพิเศษดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในระหว่างนี้ทางแอดมินได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตลอด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ เช่น การรวบรวมหลักฐาน และสรุปความเสียหายให้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของดีเอสไอ คือ 100 ล้านบาท หรือ ผู้เสียหายเกิน 300 คน จนกระทั้งในวันที่ 18 มี.ค.65 ทางดีเอสไอมีหนังสือแจ้งกลับว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าข่ายความผิดแต่เพื่อเป็นยุติธรรรมทางดีเอสไอจะส่งเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนผู้เสียหายทั้งหมดไปที่ 3 หน่วยงาน คือ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสรรพากร โดยในระหว่างที่เรื่องถูกส่งไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทางแอดมินยังคงติดต่อกับทางตำรวจสอบสวนกลางอยู่ และส่งข้อมูลพร้อมทั้งติดต่อประสานงานกันกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกองตำรวจสอบสวนกลางพิจารณาเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดเข้าข่ายเกณฑ์ที่ทางดีเอสไอกำหนด และสามารถรับเรื่องไว้ได้ ต่อมาในวันที่ 17 พ.ค.65 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงมีหนังสือแจ้งส่งเรื่องกลับไปที่ดีเอสไอให้ทำคดีต่อไปไปได้ จนกระทั่งในวันที่ 31 ส.ค.65 ทางดีเอสไอจึงมีหนังสือเสียหายทยอยให้ไปถ้อยคำตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2565 โดยในวันนั้นมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเดินทางไปดีเอสไอและให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ จึงเป็นที่มาของเอกสารเส้นทางการเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นคนให้ผู้เสียหายมากรอกรายละเอียด และรีบส่งก่อนวันที่ 31 ต.ค.65 ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันมูลค่าความเสีย 41,688,437.48 ล้านบาท ผู้เสียหายเบื้องต้น 319 คน ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายไม่ทราบว่าในปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังคงดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีอยู่หรือไม่อย่างไร เพราะไม่ทราบผลการดำเนินงาน และล่วงเลยระยะเวลามาจะครบ 3 ปี ในวันที่ 12 ม.ค.2568 นี้แล้ว และหลังจากยื่น สว.นันทนา แล้ว กลุ่มผู้เสียหายจะไปยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการทำงานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วย จึงขอให้ สว.นันทนา ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีบทบาทในการตรวจสอบความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ ช่วยดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้และติดตามทวงถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาและเยียวยาความเดือดร้อนของกลุ่มผู้เสียหายต่อไป

ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในกลุ่มไลน์แชร์นี้ มีคนอยู่ในห้องนั้นกว่า 6,000 คน คาดการณ์ว่า มีมูลค่าความเสียหายเกือบ 10,000 ล้านบาท ซึ่งในวงแชร์นี้ก็มีกลุ่มผู้มีชื่อเสียง ดาราอยู่ด้วย และกลุ่มเราที่เสียหายกว่า 300 ราย ได้ร้องไปยังดีเอสไอมาสองปีกว่าแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทุกครั้งที่ทวงถามเจ้าหน้าที่ก็จะบอกว่า ออกต่างจังหวัด และจะติดต่อกลับมา แต่ไม่ได้รับการติดต่อ ไม่ว่าจะโทรศัพท์กี่ครั้ง ก็ได้รับคำตอบเช่นนี้เหมือนเดิม จึงได้มาร้องเรียนต่อวุฒิสภา ทั้งนี้ พบว่า มีแม่ทีมบางคนขู่ว่า ไม่ให้ฟ้องร้องเรื่องนี้ เพราะเขารู้จักผู้ใหญ่ในดีเอสไอ จึงเป็นประเด็นสำคัญที่มาร้องเรียนกับทาง สว. และมีแม่ทีมบางคน ถึงขั้นขู่ว่า จะอุ้มฆ่าผู้เสียหายที่มาร้องเรียนด้วย ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายยังเปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบันแชร์วงนี้ ยังมีการเปิดวงดำเนินกิจการอยู่.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปมเหตุเผาพ่อค้าแตงโมเสียชีวิต กลางลานจอดรถ

เผยปมเหตุเผาพ่อค้าขายแตงโมกลางลานจอดรถวัดดังย่านยานนาวา ล่าสุดลูกสาวโพสต์เศร้า หลังพ่อเสียชีวิต พบประวัติผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าเมื่อ 4 ปีก่อน

ระงับทุนการศึกษาเมียนมา

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : “ทรัมป์” ระงับทุนการศึกษา นศ.เมียนมา

นักเรียนทุนเมียนมาตกใจเมื่อพบว่าทุนการศึกษาของพวกเขาถูกยกเลิกไปกะทันหัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับงบประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ที่ให้กับนักศึกษาเมียนมากว่า 400 ชีวิต ภายใต้องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือ USAID คุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าววีโอเอไทย ส่งรายงานมาจากสหรัฐ

ฆ่ายัดกระเป๋า

พบเบาะแสคนร้าย คดีฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ

พบเบาะแสคดีฆ่าสาวปริศนา ยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยเห็นรถต้องสงสัยบริเวณจุดทิ้งศพ เชื่อวนกลับมาดูว่าศพลอยน้ำหรือไม่

สาดน้ำร้อน

คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต ดำเนินคดีเพิ่ม

ตำรวจ คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต มาโรงพัก แม่ผู้เสียหายร้องไห้ถาม “ทำแบบนี้กับลูกของแม่ทำไม สำนึกผิดบ้างไหม”

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคอีสานอากาศเย็นถึงหนาว-กทม.อากาศเย็นตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง

5แรงงานไทย

อ้อมกอดครอบครัวเยียวยาฝันร้ายแรงงานไทย

หลายฝ่ายเยียวยาผลกระทบ 5 แรงงานไทยในอิสราเอล ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันนาน 1 ปี 4 เดือน แต่ครอบครัว คือ การเยียวยาจิตใจให้ลืมฝันร้ายได้ดีที่สุด ติดตามบรรยากาศสู่อ้อมกอดของครอบครัวอย่างอบอุ่น ของนายวัชระ ศรีอ้วน ชาวอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี

สาดน้ำร้อน

คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต ดำเนินคดีเพิ่ม

ตำรวจ คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต มาโรงพัก แม่ผู้เสียหายร้องไห้ถาม “ทำแบบนี้กับลูกของแม่ทำไม สำนึกผิดบ้างไหม”