สงขลา 9 ก.พ. – ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนธิกำลังตำรวจสงขลาไล่ล่ารถบรรทุกสี่ล้อเล็กตู้ทึบ ขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาอัดแน่นมา 33 คน ขณะกำลังไปส่งปลายทางที่มาเลเซีย
ชุดสืบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจ.สงขลา ขับรถติดตามรถบรรทุกสี่ล้อเล็กตู้ทึบ อีซูซุสีขาว ทะเบียนกรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่าใช้ขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจาก จ.สมุทรสาคร มาส่งสงขลา โดยใช้เส้นทางสายเอเชีย ขาล่องใต้ กระทั่งมาถึง ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งมีการวางแท่งแบริเออบนถนนที่กำลังก่อสร้าง ทำให้รถต้องลดความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงขับรถเข้าสกัดจับ ปิดหัว ปิดท้าย บล็อกรถคันนี้เอาไว้ได้ และเข้าควบคุมตัวนายวิเศษศักดิ์ อายุ 56 ปี คนขับชาวสมุทรสาคร จากการตรวจค้นภายในตู้ทึบ พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนหลบหนีเข้าเมือง ไม่มีหนังสือเดินทาง นั่งอัดกันมาถึง 33 คน เป็นชาย 21 คน หญิง 12 คน และแยกออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ผูกเชือกสีแดงที่ข้อมือ 15 คน และกลุ่มที่ไม่มีเชือกผูก 18 คน จึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.รัตภูมิ
นายวิเศษศักดิ์ ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากชายชาวเมียนมาให้ไปรับแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ที่บ้านเช่า ในจ.สมุทรสาคร ได้ค่าหัวคนละ 500 บาท รับมาเมื่อช่วงค่ำวานนี้ กำลังจะพาไปส่งในป่าสวนยาง ต.คลองแงะ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อถึงที่หมายจะให้เบอร์ของคนที่จะมารับช่วงต่อ เพื่อให้มารับแรงงานต่างด้าว โดยจะแยกเป็น 2 กลุ่ม 2 เบอร์ คือพวกที่ผูกเชือกแดง 15 คนกับกลุ่มไม่ผูกเชือก
ขณะที่แรงงานต่างด้าว บอกว่า ลักลอบเดินทางข้ามแดนเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติพื้นที่จ.กาญจนบุรี เมื่อ 3 วันก่อน และถูกพามาพักค้างคืนที่บ้านเช่า ที่ จ.สมุทรสาคร 1 คืน กระทั่งเมื่อช่วงค่ำวานนี้ รถตู้คันนี้ก็มารับโดยจ่ายค่าเดินทางคนละ 5 ล้านจ๊าด หรือราว 80,000 บาท จ่ายแล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจ่ายเมื่อถึงปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั่้งหมดดำเนินคดี โดยนายวิเศษศักดิ์ คนขับชาวไทย ถูกดำเนินคดีข้อหาให้ที่พักพิงซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ส่วนแรงานต่างด้าวทั้ง 33 คน โดนข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผล เพื่อทลายเครือข่ายขบวนค้าแรงงานเถื่อนซึ่งยังคงพยายามลักลอบขนแรงงานเถื่อนผ่านไทยเข้าไปยังมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเสี่ยงที่จะถูกจับกุมและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดก็ตาม .-สำนักข่าวไทย
