กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – ธอส.เผยลูกหนี้เข้าข่ายโครงการ “คุณสู้ เราช่วย“ จำนวน 3.49 แสนบัญชี มูลหนี้ 3.1 แสนล้านบาท หากผ่านเงื่อนไขทั้งหมด คาดปี 68 จะลดหนี้เสียลงที่ระดับ 4-5% พร้อมคาดการณ์ปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 68 ไม่ต่ำกว่า 230,000 ล้านบาท
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.มีความพร้อมในการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล แก้ไขหนี้ประชาชน ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” โดยลูกหนี้ ธอส.ที่เข้าข่ายรับสิทธิโครงการดังกล่าว มีจำนวน 3.49 แสนบัญชี มูลหนี้รวมประมาณ 3.1 แสนล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา มีลูกหนี้บ้านของ ธอส. ให้ความสนใจแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 6,600 ราย
เบื้องต้นประเมินว่าหากมีลูกหนี้ ธอส.ลงทะเบียนเข้าร่วมแก้หนี้ครบทั้งหมด ผ่อนได้ตรงตามเงื่อนไข และได้รับยกเว้นดอกเบี้ยนั้น จะทำให้ธนาคารมีรายได้จากดอกเบี้ยในส่วนนี้ลดลงประมาณปีละ 1.69 หมื่นล้านบาท ซึ่ง ธอส.จะเข้าไปรับผิดชอบครึ่งหนึ่งประมาณ 8,400 ล้านบาท และรัฐบาลจะรับผิดชอบอีกครึ่งหนึ่ง ผ่านการใช้มาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และคาดว่าจะส่งผลทำให้หนี้เสีย หรือ NPL ของ ธอส.ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4-5% ในปี 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.5%
กรรมการผู้จัดการ ธอส. ยังเปิดเผยผลการดำเนินงาน ปี 2567 ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้วกว่า 200,856 ล้านบาท จำนวน 155,536 บัญชี ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 95,125 ราย โดยปัจจุบัน ธอส. มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1.78 ล้านล้านบาท ให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายและตรงตามความต้องการของลูกค้า อาทิ สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส., โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ.2567, มาตรการสินเชื่อซื้อ – สร้าง และมาตรการสินเชื่อซ่อม – แต่ง ทำให้คาดการณ์ทั้งปี 2567 ธอส. จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 230,000 ล้านบาท ขณะที่การจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านรายได้ให้กับลูกค้านั้น ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการรวม 114,101 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 133,255.49 ล้านบาท
“จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นในปลายปี 2567 ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจในปี 2568 ขยายตัวดีขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่าการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. จะได้ตามที่คาดการณ์ไว้ โดย ธอส. พร้อมสานต่อนโยบายของรัฐในการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน ด้วยการให้บริการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ไม่ต่ำกว่าสินเชื่อใหม่ที่ปล่อยได้ในปี 2567” นายกมลภพ กล่าว
นอกจากนี้ ธอส. ยังพัฒนาการให้บริการเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น อาทิ (1) โครงการสอบทานกระบวนการให้สินเชื่อ (Automate Loan Review : ALR ) โครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อสอบทานคุณสมบัติของลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้สินเชื่อที่ตรงกับความต้องการและความสามารถของลูกค้า และ (2) โครงการระบบ GHB Digital Appraisal ระยะที่ 3 เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการประเมินราคาหลักทรัพย์ผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งมีการขยายพื้นที่ในการให้บริการไปยังสาขาต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยระบบดังกล่าวเป็นการให้บริการด้านข้อมูลการประเมินราคาหลักทรัพย์ในเบื้องต้นให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มีความประสงค์จะขอสินเชื่อกับธนาคาร ให้สามารถประเมินราคาในเบื้องต้นเพื่อประมาณการวงเงินอนุมัติเบื้องต้นได้รวดเร็วขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th.-516-สำนักข่าวไทย