กรุงเทพฯ 28 พ.ย. – ม.หอการค้าไทย ประมาณการจีดีพีไทยปี 68 แตะ 3% คาด 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ หนุนจีดีพีโตเพิ่ม 0.9%
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย คงประมาณการจีดีพีของไทยปี 2567 ที่ 2.6% (คาดว่า GDP ในไตรมาสที่ 4/2567 จะเร่งตัวขึ้นเป็น 3.6%) ภาคบริการถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยขยายตัว 3.8% ในปี 2567 นำโดยการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35-36 ล้านคน ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งที่ 5.0% โดยมีแรงหนุนจากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 1 (กลุ่มเปราะบาง) ด้านการส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัว 4.6% ในปี 2567 การลงทุนรวมขยายตัวเพียง 0.1% โดยการลงทุนภาคเอกชนหดตัว -0.4% แม้การลงทุนภาครัฐจะขยายตัว 2.0%
ทั้งนี้ มีปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ สินค้าคงคลังยังลดลงต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 มียอดลดลงสะสม -139.7 พันล้านบาท หนี้สินภาคครัวเรือนจะมีแนวโน้มลดลง แต่สัดส่วนหนี้สินภาคครัวเรือนต่อจีดีพี ณ สิ้นปี 2567 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 87.4% ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ในระดับต่าที่ 0.5% ซึ่งสะท้อนว่ากาลังซื้อยังไม่เข้มแข็งมากนัก
สำหรับในปี 2568 มองการเติบโตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น ประมาณการณ์ GDP เติบโต 3.0% โดยมีภาคบริการเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ขยายตัว 4.0% โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38-42 ล้านคน
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวม 3 โครงการ มูลค่ารวม 165,934 ล้านบาท คิดเป็น +0.9% ต่อ GDP ประกอบด้วย: มาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2, มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย (NPL), และมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท
ทั้งนี้ มีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ความเสี่ยงจากการที่ไทยถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษี 15% และสงครามยูเครนขยายตัวสู่ระดับโลก อาจส่งผลทาให้ GDP ปรับตัวลดลง -2.1% และทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับกรณีฐาน, ความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากการขึ้นภาษีนาเข้าและการตอบโต้ทางการค้า, หนี้สินภาคครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงที่ 84.2% ต่อ GDP ถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลง ความท้าทายเชิงโครงสร้าง, GDP ไทยมีอัตราการเติบโตต่ากว่าประเทศหลักในอาเซียนอย่างชัดเจน คาดการณ์ว่าภายใน 15 ปี สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย จะมี GDP แซงหน้าไทย. -516-สำนักข่าวไทย