กองทัพบก 26 พ.ย.- ผบ.ทบ. สั่งทัพภาค 3 แจงปมว้าแดง-ทหารไทย เผชิญหน้าพื้นที่พิพาท ยันสถานการณ์ไม่ตึงเครียด และไม่นำไปสู่ความรุนแรง กำชับ ผบ.หน่วย-ผบ.พัน กวดขันวินัยกำลังพล พร้อมเร่งรับนโยบายรัฐบาลจัดระเบียบชายแดนสกัดยาเสพติด
พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก พร้อม พ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม และ พ.ท.หญิง ญดา โชติชูตระกูล รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) โดยมีพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม ระบุว่าหลังจากรับตำแหน่งผบ.ทบ. และได้ปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว 57 วัน ซึ่งได้รับคำชมจากหน่วยเหนือ ผู้บังคับบัญชา รวมถึงบุคคลภายนอก ภายหลังกำลังพลได้มีการช่วยเหลือประชาชนด้านจิตอาสา เรื่องการป้องกันชายแดน เรื่องการดูแลทหารใหม่ ซึ่งผบ.ทบ. ได้ชื่นชมผู้บังคับหน่วยที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง และขอให้ดำรงรักษาไว้ความดีแบบอย่างนี้ไว้ตลอด
พ.อ.ฐิต์รัชช์ กล่าวอีกว่า ผบ.ทบ. ยังเน้นย้ำในที่ประชุมว่ากองทัพบก ยังคงมีความท้าทาย หลังที่รัฐบาลได้มอบหมายภารกิจต่างๆ ให้กับกองทัพบก เช่นการจัดระเบียบชายแดน การป้องกันชายแดน โดยการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ให้จัดพื้นที่ชายแดน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ออยึดตามกฏหมาย ซึ่งปัจจุบัน พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด เข้ามาทางพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจำนวนมาก อีกครั้งรัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยบัญชาการ สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในการดูแลพื้นที่ตอนกลางโดยทำหน้าที่ประสานงาน เพื่อสกัดกั้นยาเสพติด ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1
ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้กล่าวอีกว่า การแต่งตั้งผู้บังคับหน่วยและผู้บังคับการกองพัน เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลกำลังพลให้อยู่ในระเบียบวินัย ไม่ให้มีการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อกองทัพบก และความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนมี
โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ชายแดนหลังปรากฏข่าวมีการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มว้าแดงและทหารไทย ในพื้นที่อ.ปาย จ. แม่ฮ่องสอน กรณีพื้นที่พิพาทตามชายแดนว่าปัจจุบันกรณีพิพาทชายแดน ยังปักปันเขตแดนไม่เรียบร้อย ซึ่งทั้งสองประเทศต่างรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
“ทางผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ทางกองทัพภาคที่ 3 ได้แถลงข่าวภายในวันนี้ ซึ่งเบื้องต้นไม่มีรายงานว่าสถานการณ์ชายแดนมีความตึงเครียด ตามที่ปรากฏเป็นข่าว และปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว เราก็ได้มีการทำเรื่องประท้วงคู่กรณี โดยสถานการณ์ภาพรวมไม่ได้รับการยืนยันว่ามีความรุนแรง” พ.อ.ฐิต์รัชช์ กล่าว-313 .-สำนักข่าวไทย