อุดตรดิตถ์ 21 ต.ค.-เปิดใจ หญิงพิการปล่อยโฮ ครอบครัวมีอาชีพ ลูกได้เรียน ด้วยเงินพระราชทานจากพ่อหลวง หลังเขียนหนังสือถวายฎีกา ขอทรงช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ห้องแถวเล็กๆ ภายในโครงการบ้านมั่นคงบุงคุก ที่จัดสรรเพื่อผู้ยากไร้อยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ พบกับ 3 พ่อแม่ลูก คือนายสมชาย ทรัพย์ขำ นางสะอาด สุขชวดมี อายุ 42 ปี ทั้งคู่พิการตั้งแต่กำเนิดจากโรคโปลิโอ ซึ่งนางสะอาด นั้นพิการตั้งแต่ท่อนล่างทั้งหมด ไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติทั่วไป ต้องใช้ลำแขนทั้ง 2 ข้างช่วยพยุง และเด็กหญิงศศิธร ทรัพย์ขำ อายุ 9 ปี ปัจจุบันเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ
เมื่อเข้าไปถึงภายในบ้าน ต้องตะลึงและชื่นชม เนื่องจากเต็มไปด้วยพระบรมฉายยาลักษณ์ใหญ่-น้อย รวมไปถึงนาฬิกาแขวน ของทั้งสองพระองค์ และบริเวณบนตู้ ถูกจัดเป็นหิ้งสำหรับว่าถุงพระราชทาน พระบรมฉายาลักษณ์พระราชทาน ที่ครอบครัวดังกล่าวได้รับเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา
นางสะอาด กล่าวพร้อมโชว์สำเนาจดหมายที่เขียนด้วยตัวเองฉบับหนึ่งเพื่อเป็นการถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถึงกับร้องไห้โฮว่า ครอบครัวยากจน ลำบากมาก ไม่มีงานทำไม่มีใครจ้างงาน ด้วยสภาพร่างกายที่พิการทั้ง 2 คน ยิ่งลำบากเมื่อลูกสาวกำลังเริ่มเข้าสู่วัยเรียน คิดแม้กระทั้งอยากฆ่าตัวเองและลูกให้ตายตามกันไป นั่งร้องไห้และเครียดที่สุดในชีวิต ในวินาทีนั้นสายตาได้มองไปที่ฝาผนังบ้าน เห็นรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและราชินีแขวนอยู่ จึงยกมือไหว้ ตั้งจิตอธิฐานขอให้พระองค์ทานช่วยเหลือ
จากนั้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 ด้วยความพิการ ไม่ได้เรียนหนังสือ ความรู้น้อยมาก ตัดสินใจเขียนจดหมายถึงพระองค์ท่าน 1 ฉบับ ใจความอยากมีอาชีพสำหรับคนพิการคือ ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เขียนแบบผิดๆ ถูกๆ 1 หน้ากระดาษเอสี่ ใจความ 10 บรรทัด จดหมายฉบับเดียวพระองค์ท่านยังเมตตากลับครอบครัวของตนเอง จากนั้น จนท.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ (พมจ.) แจ้งว่ามีหนังสือมาจากสำนักพระราชวัง ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 30,000 บาทให้กับครอบครัว เพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพ ณ เวลานั้น แสงสว่าง ความอยู่รอดของ 3 ชีวิตก็เริ่มมีความหวัง
หลังได้รับเงินพระราชทาน ถุงยังชีพ พระบรมฉายาลักษณ์พระราชทาน จากพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี โดยเดินทางไปรับที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ท่านกล่าวกลับครอบครัวว่า “ทำดีถวายพ่อและให้ลูกสาวตั้งใจนะ ขอให้โชคดี” เงินที่ได้รับพระราชทานได้นำมาใช้เป็นทุนในการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำนวน โดยกดจากตู้เอทีเอ็ม งวดละ 10 ฉบับ และเก็บออมเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูกสาว เพราะคิดไว้ว่าเมื่อลูกโตขึ้นก็จะให้ไปรับใช้พระองค์ท่าน ด้วยการเป็นคนดี เมื่อทราบข่าวว่าพระองค์ท่านสวรรคตก็รู้สึกเสียใจมาก ด้วยสภาพร่างกายพิการ ไม่สามารถเดินทางไปกราบพระบรมศพที่กรุงเทพฯ ได้ ทุกวันจะกราบพระบรมฉายาลักษณ์ ถุงยังชีพพระราชทาน ที่ตั้งไว้บนตู้ และสำนึกพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อครอบครัว.-สำนักข่าวไทย