กรุงเทพฯ 19 พ.ย. – ราคาทองคำไทยเช้านี้ขยับขึ้นตามตลาดโลก ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเช่นกัน เพราะหวั่นสงครามยูเครน-รัสเซียรุนแรงขยายวง
ราคาทองคำในประเทศเช้านี้ จนถึงเวลา 09.40 น. ขยับขึ้น 3 ครั้งรวม 200 บาท/บาททองคำ ทองแท่งขายออก 43,000 บาท/บาททองคำ เป็นไปตามทิศทางตลาดโลกที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (18 พ.ย.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 44.50 ดอลลาร์ฯ หรือ 1.73% ปิดที่ 2,614.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ทั้งราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบตลาดโลกขยับขึ้นหลัง นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems หรือ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย และรัสเซีย เตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการบ่งชี้ว่าสหรัฐได้เข้าเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำสงครามกับรัสเซีย ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
นอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.38% แตะที่ระดับ 106.276
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.64-34.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.30 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ อานิสงส์จากทองคำโลกปรับตัวขึ้น ส่วนเงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงขายทำกำไรและปรับโพสิชั่นต่อเนื่อง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้านี้
ด้าน บมจ.ไทยออยล์ รายงานวานนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 2.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.3 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 70.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.28 ดอลลาร์
บมจ.ไทยออยล์ รายงาน ตลาดหวั่นสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้นและรัฐบาลสหรัฐยังได้อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ในขณะที่ บริษัทเอควินอร์ (Equinor) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของนอร์เวย์ ประกาศระงับการผลิตที่บ่อน้ำมันโยฮัน สเวอร์ดรุป ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก เนื่องจากปัญหาไฟฟ้าดับ และบ่อน้ำมันเทนกิซ (Tengiz) ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในคาซัคสถาน และดำเนินงานโดยบริษัทเชฟรอน ได้ปรับลดการผลิตน้ำมันลง 28%-30% เนื่องจากบ่อน้ำมันแห่งนี้อยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุง. -511 สำนักข่าวไทย