กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เตรียมนำคณะเดินทางไปโรดโชว์ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย.นี้ กระชับความสัมพันธ์ ยกระดับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การโรดโชว์ครั้งนี้ ยังเป็นการผนึกกำลังองค์กรส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของจีน (China Council for the Promotion of International Trade: CCPIT) และ Bank of China จัดงานสัมมนาใหญ่ “Thailand-China Investment Forum 2024” และจะมีผู้บริหารจากภาคเอกชนชั้นนำร่วมบรรยายถ่ายทอดประสบการณ์และความสำเร็จของการทำธุรกิจในประเทศไทย เช่น Bank of China, บริษัท Haier ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะรายใหญ่มีการลงทุนในไทยรวมกว่า 16,000 ล้านบาท, บริษัท Westwell Technology ผู้นำด้าน AI และ Digital Green Logistics โดยได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ยกระดับธุรกิจต่าง ๆ เช่น การพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะในประเทศไทย อีกทั้งมีผู้แทนภาคเอกชนไปร่วมออกบูธให้ข้อมูลด้านการลงทุน เช่น ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ นิคมอุตสาหกรรมฯ WHA, TRA, TFD, เอส, โรจนะ และนิคม 304
รวมทั้งมีการหารือกับนักลงทุนชั้นนำของจีนเป็นรายบริษัท เช่น การผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน เน้นการผลิตแบตเตอรี่ะดับเซลล์ ธุรกิจบริหารจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้ว อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงและอุปกรณ์โทรคมนาคม การผลิตบรรจุภัณฑ์ชีวภาพจากวัตถุดิบทางการเกษตรในประเทศไทย เป็นต้น ล่าสุดมีนักลงทุนจีนสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 500 คน เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน แบตเตอรี่ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ดิจิทัล เครื่องจักรและอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์โลหะและวัสดุ เป็นต้น
“ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นฐานการผลิตหลักของจีนในภูมิภาคอาเซียน โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาได้มีคลื่นการลงทุนลูกใหม่จากจีนมาไทย เช่น EV)แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) กิจการ Data Center และ Cloud Service สำหรับการเยือนจีนครั้งนี้จะเน้นดึงการลงทุนในกลุ่มแบตเตอรี่และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ต้นน้ำที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับซัพพลายเชน รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนและวัตถุดิบจากผู้ผลิตในประเทศด้วย” นายนฤตม์ กล่าว
สำหรับปี 2566 มีโครงการจากจีนยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 416 โครงการ เงินลงทุน 158,121 ล้านบาท สูงเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.67) จีนขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 554 โครงการ เงินลงทุน 114,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผลิตภัณฑ์โลหะและวัสดุ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์.-511-สำนักข่าวไทย