นอนคุกคืนแรก “17 บอส” ดิไอคอน เครียดตามสภาพ

บอสดิไอคอน

กทม. 18 ต.ค.-นอนคุกคืนแรก “17 บอส” ดิไอคอน เครียดตามสภาพ พร้อมเอ่ยปากร้องขออยากเจอญาติ ขณะที่พบ “บอสวิน” และ “โค้ชแล็ป” มีโรคประจำตัว

หลังจากที่ศาลไม่อนุญาตประกันปล่อยตัวชั่วคราว 17 บอส ดิไอคอน และคุมตัวมายัง เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนผู้หญิงไปยังทัณฑสถานหญิงกลางตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ ล่าสุด เช้าวันนี้ทีมข่าวสอบถามไปยังนายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระบุว่า เมื่อคืนนี้หลังจากรับตัวกลุ่มบอสผู้ต้องหาชายมาทั้งหมด 10 คน เข้าสู่เรือนจำ ก็ทำตามขั้นตอนตามปกติเหมือนนักโทษทั่วไป คือ การตรวจร่างกาย ซักประวัติ ดูประวัติรักษาโรคต่างๆ ก่อนควบคุมเข้าพื้นที่แดนกักโรคเป็นเวลา 5 วัน เบื้องต้นจากการตรวจร่างกายพบ 2 ราย มีโรคประจำตัว คือ นายธวิณทร์ภัส หรือ “บอสวิน” เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มีใบเอกสารรักษาตัวและใบยาชัดเจน ส่วนนายจิระวัฒน์ หรือ “โค้ชแล็ป” เป็นโรคไต มีใบเอกสารรักษาตัวและใบยาชัดเจนเช่นกัน


ส่วนภาพรวมบอสคนอื่นๆ โดยเฉพาะบอสดาราอย่าง “บอสแซม” ยุรนันท์ และ “บอสกันต์” กันต์ กันตถาวร ก็ตามสภาพ เบื้องต้นทราบว่า เครียดมาก นอนไม่ค่อยหลับ เพราะนอนรวมกันทั้งหมด รวมถึงยังเอ่ยปากพูดร้องขอ “อยากเจอญาติ” แต่ก็ยืนยันไปว่าต้องเป็นไปตามระเบียบก่อน เนื่องจากต้องเข้าสู่กระบวนการแยกกักโรคสำหรับผู้ต้องขังแรกรับ ซึ่งกลุ่มบอสนอนรวมกันทั้งหมด เพราะรองรับผู้ต้องขังรายใหม่ได้มากสุด 15 คน ซึ่งภายในห้องก็จะมีกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตอาการอยู่ตลอดเวลา

สำหรับเมนูแรกเมื่อคืนนี้ที่กลุ่มบอสชายได้กิน คือ เมนูแกงเผ็ดปลามะเขือเปราะ และผัดผักคะน้าใส่ไก่ ส่วนในช่วงเช้าวันนี้จะเป็นเมนูแกงเขียวหวานไก่ใส่ฟักเขียวและข้าวสวย


ขณะที่ทางทัณฑสถานหญิงกลางทีมข่าวได้สอบถามไปยังนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง บอกว่า ผู้ต้องหาหญิงทั้ง 7 คน มาถึงเรือนจำประมาณ 2 ทุ่มกว่า เมื่อเข้ามาแล้วก็มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ซักประวัติ ตรวจสุขภาพ มี 3-4 คนมีโรคประจำตัว บางคนมีไข้ และมีความดันโลหิตสูง ซึ่งเช้าวันนี้จะพาไปพบแพทย์ตรวจอีกครั้ง และเมื่อวาน เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจเสร็จสิ้นแล้ว ทางเรือนจำได้เตรียมอาหารไว้ให้เผื่อผู้ต้องหาหญิงจะหิว เมนูคือซุปไก่กับข้าวไว้ให้ แต่ก็ไม่มีใครทาน

นางกนกวรรณ บอกอีกว่า ผู้ต้องขังหญิงทั้ง 7 คน ให้อยู่ในแดนแยกกักโรค 5 วัน ซึ่งจะให้อยู่ด้วยกันทั้ง 7 คน ไม่ได้แยกใครออกจากกัน เนื่องจากดูพฤติกรรมแล้วทั้ง 7 คน น่าจะช่วยเหลือกัน ไม่ได้มีพฤติกรรมทะเลาะ หรือ โยนความผิดอะไร (โดยปกติแล้วหากผู้ต้องขังมาเป็นกลุ่มก็จะดูความปลอดภัย ว่าเข้ากันได้มั้ย ถ้ามีปัญหาโทษกัน ทางเรือนจำก็จะแยกกัน) ซึ่งในแดนแยกกักโรคจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา มีกล้องวงจรปิด คอยตรวจสอบตลอด

ส่วนเมื่อคืนที่เป็นคืนแรกผู้ต้องหาหญิงทั้ง 7 คน นางกนกวรรณ ก็บอกว่า ก็พอนอนได้ เช้านี้ก็ตื่นมาตามปกติ อาบน้ำ ทานข้าวกันแล้ว ส่วน น้องมิน ได้มีการสอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องว่าญาติ หรือทนายจะเข้าเยี่ยมได้เลยหรือไม่ และจะเอาของมาฝากได้หรือไม่นั้น นางกนกวรรณ ได้อธิบายว่า ทนายความหรือพนักงานสอบสวนสามารถเข้าเยี่ยมได้ตลอดตั้งแต่วันนี้ ส่วนญาติจะเยี่ยมได้หลังกักโรค 5 วัน คือ วันอังคารที่ 22 ตุลาคมนี้ ส่วนของฝากสิ่งที่นำฝากให้เจ้าหน้าที่ไปให้ได้มีเพียงยาที่มีใบรับรองแพทย์ แว่นตาหรือฟันปลอม ส่วนอย่างอื่นสามารถมาซื้อจากข้างในและฝากเข้าไปได้ ซึ่งน้องมิน ก็เข้าใจ


ส่วนเมื่อถามถึงความเครียดในส่วนของ “มิน” ก็บอกว่า “มิน” ไม่ได้เครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่คิดว่าคงมีความเครียด เนื่องจากอยู่ด้านในเรือนจำมีกฎระเบียบต่างๆ ต้องใช้ปรับตัว แต่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลผู้ต้องหาทุกคนเหมือนกัน.-420.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด