สั่งดำเนินคดีเจ้าของรถบัสไฟไหม้ หลังไม่ยอมส่งรถตรวจตามนัด

กรุงเทพ 3 ต.ค. – กรมการขนส่งทางบกร่วมมือตำรวจภูธรภาค 1 สั่งลงโทษดำเนินคดีกับเจ้าของรถบัสทัศนศึกษาที่เกิดไฟไหม้ หลังกรมการขนส่งทางบก นัดผู้ประกอบการนำรถที่เหลือทั้งหมด 5 คัน มาตรวจสภาพที่ขนส่งจังหวัดลพบุรี แต่ผู้ประกอบการไม่ได้มาตามนัด


นายชยธรรม พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถโดยสารไม่ประจำทางและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยนายจิรุตม์ กล่าวว่า หลังจากกระทรวงคมนาคม ออกมาตรการเร่งด่วนให้กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบสภาพรถประเภท NGV ที่ใช้ถังแก๊ส CNG ทั้งหมด 13,426 คันทั่วประเทศ โดยหากพบว่ารถไม่ผ่านการตรวจสภาพจะถูกยึดใบอนุญาตรถทันที ล่าสุดมีรายงานจากสำนักขนส่งจังหวัดลพบุรี ว่า รถโดยสารของคุณปนิศรา ผู้ประกอบการจากจังหวัดสิงห์บุรี ที่เกิดอุบัติเหตุ แต่จะเข้าตรวจสภาพในวันนี้ที่สำนักงานขนส่งลพบุรีเพราะมีเครื่องมือพร้อมกว่า ไม่ได้นำรถที่มีอยู่ รวมทั้งรถของเครือญาติจำนวน 5 คัน (แต่เดิมมี 6 คัน เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ไป 1 คัน) มาตรวจสอบตามที่นัดหมายไว้ในเวลา 14.00 น.ของวันนี้ โดยเจ้าของรถได้ผ่อนผันและไม่ได้นำรถมาตรวจตามที่นัดหมายไว้ และเมื่อติดตาม GPS ที่ติดอยู่กับรถทั้ง 5 คัน พบว่ารถโดยสารทั้งหมดของผู้ประกอบการรายดังกล่าวและเครือข่าย อยู่ที่อู่ซ่อมรถเอกชน ในจังหวัดนครราชสีมา จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ารถโดยสารทั้ง 5 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะปกปิดความผิดจากดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดัดแปลงระบบก๊าซ ซึ่งส่งผลให้รถโดยสารมีน้ำหนักเกินสมรรถนะ อีกทั้งมีความเสี่ยงอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรหรือหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อรวบรวมส่งพนักงานสอบสวนในการดำเนินคดีต่อไป

นายชยธรรม พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณามาตรการเชิงป้องกันการให้บริการขนส่งสาธารณะโดยมีนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเพื่อหาข้อเท็จจริงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถโดยสารทัศนศึกษาในครั้งนี้ ว่า เกิดจากสาเหตุใดกันแน่เพื่อปรับปรุงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำในระยะยาว รวมทั้งหามาตรการป้องกันโดยเฉพาะรถโดยสารที่ใช้กับเด็กที่จะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่า ซึ่งเมื่อมีคำสั่งออกมาแล้ว คณะกรรมการชุดนี้จะเริ่มทำงานทันทีเพื่อกำหนดมาตรการแรกออกมาใช้กับรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทางภายใน 15 วันนับจากนี้ และถ้ามีผลการศึกษาออกมาว่ารถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง ที่ใช้แก๊สมีอันตรายจะต้องมาพิจารณากันว่ามันเหมาะสมหรือไม่ ภายใน 15 วัน จะได้คำตอบซึ่งจะรายงานให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เตรียมสถานที่รับร่างผู้เสียชีวิตเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้

เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมสถานที่รอรับร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี กำชับดูแลด้านจิตใจและช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียให้ครบถ้วน

ธงแดงเตือนน้ำป่า

เชียงใหม่ชักธงแดง เตือนเก็บของขึ้นที่สูง

เชียงใหม่ชักธงแดง หลังน้ำป่าหลากหลายพื้นที่ น้ำปิงขึ้นสูง คาดสูงสุดเกือบ 5 เมตร คืนนี้ เตือนชุมชนในเมือง 7 โซน เก็บของขึ้นที่สูง

ไต้ฝุ่นกระท้อน

พายุไต้ฝุ่น “กระท้อน” ขึ้นฝั่งเกาะไต้หวันเช้าวันนี้

กรมอุตุฯ เผยพายุไต้ฝุ่น “กระท้อน” กำลังจะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน เช้าวันนี้ ส่วนไทยยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่องอีกหนึ่งวัน จากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสานตอนล่าง ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมในระดับล่างทางด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง

ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ เหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัย และทรงห่วงใย เหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเพลิงไหม้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ รู้สึกเป็นเกียรติติดโผผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต

รัฐกาตาร์ 3 ต.ค.- นายกฯ รู้สึกเป็นเกียรตินิตยสารไทม์ ยกเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต เมื่อเวลา 13.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นรัฐกาตาร์ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนิตยสารไทม์ (Time) ประกาศรายชื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นหนึ่งใน 100 รายชื่อผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต ว่า รู้สึกเป็นเกียรติมาก เพราะเป็นสื่อต่างประเทศ ตอนแรกไม่ทราบรายละเอียด เห็นแต่ภาพข่าว นึกว่ามีคนแกล้ง แต่พอเห็นรายละเอียดก็รู้สึกดีใจ รู้สึกเป็นเกียรติ เพราะไม่ได้คิดไว้ นายกฯ รู้แล้วน้ำท่วมเชียงรายเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำ น.ส.แพทองธาร ยังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์อุทกภัยล่าสุดที่ จ.เชียงราย ว่า ได้รับทราบว่ามีน้ำท่วมมากขึ้น มีญาติของญาติอาศัยอยู่ที่เชียงราย ตนจึงสอบถามไป พบว่ามีน้ำท่วมเพิ่มขึ้น เรื่องถนนที่เคยมีปัญหา ตอนนี้กลับมาใช้การได้แล้ว แต่เมื่อมีน้ำเพิ่มเข้ามา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ. 315.-สำนักข่าวไทย

ลุ้นน้ำปิงล้นตลิ่งท่วมซ้ำเมืองเชียงใหม่

ชาวเชียงใหม่จำนวนมากเฝ้าดูระดับน้ำในลำน้ำปิงที่สะพานนวรัฐ ตอนนี้สูงถึง 4.30 เมตร และคาดว่าจะขึ้นสูงสุดถึง 4.95 เมตร ในช่วงตี 2 ทำให้หลายคนกังวลว่าน้ำจะทะลักท่วมเหมือนสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่

“ในหลวง” พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพเหยื่อรถบัสไฟไหม้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพผู้ประสบอุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษา พร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย ขณะที่บรรยากาศสวดพระอภิธรรมคืนแรก เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ต้นเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเกิดจากก๊าซถังที่ 11 รั่ว

โศกนาฏกรรมรถบัสทัศนศึกษา เกิดจากก๊าซถังที่ 11 เกิดการกระแทกจนเกิดรอยรั่วโดนประกายไฟ ไม่ได้เกิดจากยางแตก