แนะรัฐบาล “ตีเหล็กตอนร้อน” ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – ม.หอการค้าไทย-หอการค้าไทย มองเงิน 10,000 บาท เฟสแรกจะหมุนเงินในระบบได้ถึง 3 รอบ ประสานเสียงแนะรัฐบาลตีเหล็กตอนร้อน ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ทั้งลดหย่อนภาษีสินค้า-ท่องเที่ยว เพื่อดันจีดีพีไทยให้ใกล้เคียง 3%


รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟสแรก รวม 1.45 แสนล้านบาท ซึ่งทยอยโอนเงินเข้าบัญชีกลุ่มเปราะบางตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมาว่า น่าจะถูกใช้ในพื้นที่เป็นหลัก และน่าจะถูกใช้ทันทีภายในสัปดาห์แรก เพราะเป็นการจ่ายเงินสด ที่สามารถใช้ได้ทันที และใช้ที่ไหนก็ได้ ซื้ออะไรก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ซึ่งจากการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการไทย และการสำรวจของรัฐบาลพบว่า ประชาชนจะใช้เงิน 1 หมื่นบาท กับสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก รองลงมาคือใช้ในการต่อยอดธุรกิจหรือต่อยอดหารายได้ เช่น ลงทุนซื้ออุปกรณ์ทำมาหากิน และมีบางส่วนประมาณ 20% บอกว่าจะนำไปใช้หนี้นอกระบบ ดังนั้น เม็ดเงิน 1.45 แสนล้านบาท น่าจะหมุนเวียนในระบบได้อย่างน้อย 2-3 รอบ รอบแรกคือประชาชนซื้อของตามร้านค้าในชุมชน ซึ่งการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟสแรกจะเป็นการใช้จ่ายเงินพร้อมๆ กันทั้ง 77 จังหวัด และเป็นการใช้จ่ายสำหรับกลุ่มคนที่ซื้อของในตลาดสดเป็นสำคัญ ซึ่งจะทำให้เงินสะพัดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งจะเป็นการใช้เกือบเต็มจำนวน ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุกเศรษฐกิจให้มีความคึกคักสูงในช่วงเดือนตุลาคม จากนั้นจะเห็นเงินหมุนในรอบที่ 2 คือร้านค้าชุมชนซื้อสินค้าจากร้านค้าใหญ่ในอำเภอ หรือในจังหวัด และรอบสามก็จะเป็นการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ของประเทศ ซึ่งจะส่งเสริมให้บรรยากาศของวันลอยกระทงในเดือนพฤศจิกายน และบรรยากาศการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 คึกคักมากขึ้น หลังจากนั้นในช่วงปีใหม่ก็จะมีเม็ดเงินมากระตุ้นมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม อยากฝากหน่วยงานภาครัฐเก็บบันทึกข้อมูลชี้วัดความสำเร็จของมาตรการ โดยดูจากปริมาณการเติมน้ำมัน อัตราการเข้าพักในโรงแรมที่พักในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของสรรพากรแต่ละพื้นที่ว่าเพิ่มขึ้นในอัตราเท่าใด เพื่อให้การแจกเงิน 10,000 บาท เฟสที่ 2 สำเร็จตรงตามเป้าหมาย และมีความคุ้มค่า พร้อมแนะรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมช่วงปลายปี 2567 เพื่อให้เศรษฐกิจไทยโดดเด่น และโตได้ถึง 3% ในปีหน้า เช่น มาตรการคูณ 2 หรือมาตรการคนละครึ่ง ในช่วงปีใหม่ หรือมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อสินค้าที่เป็นของขวัญปีใหม่หรือของที่ระลึก ซึ่งส่วนนี้รัฐบาลไม่ต้องออกเงินแม้แต่บาทเดียว


“ม.หอการค้าไทย คาดว่าการแจกเงิน 10,000 บาท จะช่วยให้จีดีพี ไตรมาสที่ 4 โต 3.8-4.3% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเติบโตได้เฉลี่ย 3-3.5% เมื่อรวมกับครึ่งปีแรกที่โตได้ 1.9% ก็น่าจะผลักให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี ขยายตัวได้ 2.6-2.8% ซึ่งโตจากที่คาดไว้เดิม 0.2-0.3% หากรัฐบาลเห็นโมเมนตัมนี้ แล้วเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เรียกว่าตีเหล็กตอนร้อน ก็อาจจะได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจใกล้เคียง 3% ได้ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจโลกเป็นบรรยากาศที่เกื้อหนุนได้ จากธนาคารกลางหลายประเทศลดดอกเบี้ย หุ้นไทยเองก็โดดเด่นขึ้น ดังนั้นการจับจ่ายใช้สอยของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยก็น่าจะมีมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ควรดูแลค่าเงินบาทให้แกว่างตัวอยู่ในกรอบ 33-34 บาท ให้ได้ ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทย” รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าว

เช่นเดียวกับนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่บอกว่าการแจกเงินสด 10,000 บาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ โตขึ้นได้ 0.2% และมองว่าการแจกเป็นเงินสด คือ การเดินมาถูกทางแล้ว เพราะเงินจะได้กระจายในร้านค้าชุมชน ประชาชนที่มีปัญหาปากท้องจะได้ผ่อนคลายในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้หลายพื้นที่ประสบอุทกภัยบ้านเรือน ข้าวของเสียหายก็สามารถนำเงินที่ได้ไปซื้อข้าวของ ของกินของใช้ได้ทันที ขณะเดียวกันหอการค้าไทยคิดว่าเป็นเวลารัฐบาลจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแรงและเยียวยาประชาชนที่ยังพอมีเงินเหลือ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 และช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น มาตรการคูณ 2 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว. – 517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ ลำพูน กำชับทุกอำเภอติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ตระเวนตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมในจุดต่าง ๆ กำชับทุกอำเภอ ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด หลังบางจุดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว

แม่ค้าคนดังแจงทองของร้านแท้แน่นอน-ประกาศรับซื้อคืนทั้งหมด

แม่ค้าคนดังประกาศรับซื้อทองจากผู้เสียหายคืนในราคาเต็มที่ขายไปทั้งหมด ยอมรับเป็นความผิดพลาด ยืนยันร้านมีใบรับประกันและสามารถกลับมาขายที่ร้านได้ ราคารับซื้อขึ้นอยู่กับราคาทองคำ ณ วันนั้น

Police in South Africa arrest 'drug mule' with cocaine bullets inside stomach

แอฟริกาใต้โชว์แคปซูลโคเคนที่คนร้ายกลืนเข้าไปเต็มท้อง

โจฮันเนสเบิร์ก 23 ก.ย.- ตำรวจแอฟริกาใต้เผยแพร่ภาพแคปซูลบรรจุโคเคนที่ผู้ต้องสงสัยขนยาเสพติดข้ามชาติกลืนเข้าไปเต็มกระเพาะอาหาร และนำออกจากร่างกายได้เพียงบางส่วน ตำรวจแอฟริกาใต้จับกุมผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่สนามบินโออาร์ แทมโบ  ในนครโจฮันเนสเบิร์กเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น หลังได้รับเบาะแสจากหน่วยข่าวกรองว่า จะมีคนนำยาเสพติดเข้าประเทศ ผู้ต้องสงสัยเป็นสตรีชาวนามิเบียวัย 30 ปีเดินทางมาจากนครเซาเปาลูของบราซิล ผลการตรวจค้นร่างกายไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจจึงนำตัวไปเข้าเครื่องตรวจเอ็กซเรย์ และพบบรรจุภัณฑ์มีลักษณะคล้ายแคปซูลขนาดใหญ่รูปร่างเหมือนกระสุนอยู่เต็มกระเพาะอาหาร สันนิษฐานว่าภายในบรรจุโคเคน ตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยไปโรงพยาบาลเพื่อหาทางนำแคปซูลเหล่านั้นออกจากร่างกาย ล่าสุดนำออกมาได้แล้ว 63 แคปซูล โดยภาพของกลางที่ตำรวจนำมาโชว์นั้นเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น และขณะนี้ยังนำออกมาจากท้องของผู้ต้องสงสัยไม่หมด ทำให้ตำรวจยังไม่สามารถประเมินราคาของยาเสพติดดังกล่าวได้.-816(814).-สำนักข่าวไทย

รดน้ำศพอ๋อม อรรคพันธ์

บรรยากาศโศกเศร้า พิธีรดน้ำศพ “อ๋อม อรรคพันธ์”

บรรยากาศโศกเศร้า พิธีรดน้ำศพ “อ๋อม อรรคพันธ์” มีบุคคลในครอบครัว เพื่อนสนิท รวมถึงกลุ่มแฟนคลับ คนบันเทิงและผู้จัด ร่วมไว้อาลัย

ข่าวแนะนำ

รถไฟสายเหนือเปิดบริการตามปกติแล้ว

“สุริยะ” เผยการรถไฟฯ พร้อมกลับมาเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางสายเหนือได้ตามปกติแล้ว กำชับอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนในช่วงน้ำท่วมอย่างเต็มที่

โอนเงินหมื่น

ชาวพิมายแห่กดเงินหมื่นคึกคัก-ดีใจได้เงินมาใช้จ่าย

วันแรกแจกเงิน 10,000 บาท โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ ต่างทยอยกดเงินกันคึกคัก ส่วนใหญ่บอกถอนหมด ดีใจได้เงินมาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ซื้ออาหาร ใช้จ่าย ใช้หนี้

น้ำปิงท่วมเชียงใหม่

น้ำปิงเพิ่มสูง ทะลักท่วมย่านการค้าตัวเมืองเชียงใหม่

เกาะติดสถานการณ์น้ำตัวเมืองเชียงใหม่ หลังระดับน้ำปิงสูงกว่า 4 เมตร ทะลักเข้าท่วมย่านการค้า โดยเฉพาะถนนเจริญประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนหลายแห่ง

โอนเงินหมื่น

นายกฯ คิกออฟโอนเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง

นายกรัฐมนตรี คิกออฟโอนเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบาง ทยอยเข้าบัญชีแล้วตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ