เตือนนายจ้างอย่าลืมขึ้นทะเบียนหรือแจ้งออกลูกจ้าง ตาม กม.

ทำเนียบ 5 พ.ค.- รัฐบาลเตือนนายจ้าง อย่าลืมขึ้นทะเบียนหรือแจ้งออกลูกจ้าง ตามกฎหมาย ระวังถูกปรับ แถมลูกจ้างเสียสิทธิ


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เผยสถิติ การแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ของสถานประกอบการในระบบประกันสังคม ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 พบสถานประกอบการทั่วประเทศ ที่แจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนล่าช้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จำนวน 32,604 แห่ง มีผู้ประกันตน จำนวน 140,071 ราย

ทั้งนี้ การแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 หรือล่าช้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นั้น จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกันตน ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีต่าง ๆ ล่าช้า และในบางกรณียังทำให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายสิทธิประโยชน์เกินสิทธิ รวมถึงการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเกินจากความเป็นจริง โดยกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ทั้ง 138 แห่ง ดำเนินการออกหนังสือเชิญให้นายจ้างทั้ง 32,604 แห่ง เพื่อมาชี้แจง พบสาเหตุการขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนล่าช้าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหลายกรณี เช่น ผู้ประกันตนลาออกจากงานโดยไม่ได้แจ้งนายจ้าง รวมถึงการที่นายจ้างส่งเงินสมทบแต่ไม่ได้แจ้งขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนให้ลูกจ้าง ในการนี้ สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับนายจ้างทั้งหมด 17 แห่ง ปรับรวมกว่า 2 แสนบาท


“การขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยให้นายจ้างแจ้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างทุกครั้งที่ลูกจ้างมีการเข้าทำงานภายใน 30 วัน และแจ้งออกจากงาน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ซึ่งในปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมได้อำนวยความสะดวกแก่นายจ้าง โดยการเพิ่มช่องทางให้สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง” นายคารม กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นหาร่างใต้ตึกถล่ม

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง.หรือไม่

คาดไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะทราบชัดมีผู้ติดค้างในซากอาคาร สตง. หรือไม่ ปัจจุบันการทำงานบริเวณทางเชื่อมด้านอาคารจอดรถด้านหลังยังลงไปไม่ถึงพื้นของชั้นใต้ดิน

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบ ตร.พาผู้ต้องหาลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก

ผบ.ตร. สั่งเร่งตรวจสอบกรณีมีตำรวจพาผู้ต้องหาลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ทั้งที่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด

รวบมือปาหิน

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

ข่าวแนะนำ

กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น

“สมศักดิ์” กำชับเฝ้าระวังโรค “แอนแทรกซ์” เข้มข้น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจำกัด-ยับยั้ง การแพร่ระบาด พร้อมเตือนรับประทานหมูดิบ เสี่ยงโรคหูดับตลอดชีวิต

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วันเคลียร์ซากตึก สตง. ก่อนส่งคืนพื้นที่

ผู้ว่าฯ กทม. คาด 4 วัน เคลียร์พื้นที่ซากอาคาร สตง. เพื่อค้นหาผู้สูญหายได้หมด ก่อนส่งมอบพื้นที่คืนหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป

บราซิลทำลายแผนวางระเบิดฟรีคอนเสิร์ต ‘เลดี้ กาก้า’

ตำรวจบราซิลทำลายแผนโจมตีงานฟรีคอนเสิร์ตของ “เลดี กากา” ที่จัดขึ้นที่บริเวณชายหาดโคปาคาบานา นครริโอเดจาเนโร เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มวางแผนก่อเหตุเป็นพวกเครือข่ายดิจิตอลที่สนับสนุน