“จุลพันธ์” ยันแจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง เข้าบัญชีครบ

รัฐสภา 12 ก.ย.- “จุลพันธ์” ยันไม่แปลก นโยบายรัฐบาลจะเหมือนกับวิสัยทัศน์ “ทักษิณ” เหตุสืบทอดอุดมการณ์ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ย้ำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ผ่านความเห็นชอบสภา-ครม.แล้ว อยู่ระหว่างปรับแก้กฎหมาย เชื่อเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบ ทำเศรษฐกิจโต 1% ยืนยันแจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบางเข้าบัญชี เตือนผู้ถือบัตรคนจนเหลืออีก 1 ล้าน ยังไม่ผูกบัญชี มั่นใจเงินถึงมือประชาชนครบ 10,000 บาทแน่นอน


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาวาระแถลงนโยบายรัฐบาล ถึงกรณีที่ไม่มีการลงรายละเอียดในแนวนโยบายแห่งรัฐ ว่าอยากให้แยกระหว่าง วิสัยทัศน์และแผนการดำเนินงาน หากดูจากแนวนโยบายแห่งรัฐจะรู้ว่าวิสัยทัศน์ของรัฐบาลจะเห็นว่ามีการวาดภาพรัฐบาลไปในทิศทางใด แต่ในส่วนของรายละเอียดเนื้อโครงการจะตามมา ซึ่งจะมีการลงลึกในรายละเอียด

ส่วนที่แนวนโยบายมีความคล้ายคลึงกับสิ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เคยกล่าวปาฐกถาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเราได้สืบทอด อุดมการตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย สำหรับแกนนำรัฐบาล ก็คงไม่ต่างกัน ท่านก็สืบทอดเจตนารมณ์มาจากอดีตพรรคการเมืองหนึ่งเมื่อถูกยุบก็เปลี่ยนพรรค แต่แนวความคิดก็ยังสืบทอดต่อกันมาเป็นเรื่องปกติ จึงขอย้ำว่าสิ่งที่บรรจุไว้ในนโยบายเป็นวิสัยทัศน์ แต่สิ่งที่เห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือท่านมองว่าประเทศไทยเติบโตตามศักยภาพได้เพียงเท่านี้ แต่สำหรับรัฐบาลชุดปัจจุบัน พยายามจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอยู่ในจุดที่เหมาะสม และกระจายความมั่งคั่งให้กับประชาชนได้อย่างเป็นธรรม


นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หรือสถานบันเทิงครบวงจร ในสภาผู้แทนราษฎรได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่หนึ่งปีที่แล้วจนเสร็จสิ้น และเสนอให้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบและส่งให้คณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ส่งให้กระทรวงการคลังไปศึกษาร่างกฎหมายและปรับแก้ให้มีความเหมาะสม ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้วค่อนข้างมาก ทางการแก้ไขกฎหมายให้เป็นไปตามระเบียบวิธีการของภาครัฐ และทำประชาพิจารณ์มีผู้เห็นชอบมากกว่า 80% ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนให้การยอมรับ ตามขั้นตอนทางกระทรวงการคลังจะเสนอไปยังคณะรัฐมนตรีหากให้ความเห็นชอบก็จะส่งร่างไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ ก่อนจะส่งกลับมาเพื่อบรรจุเข้าสู่วาระของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา 3 วาระตามปกติ

ทั้งนี้ได้มีการทำแบบจำลองมิติผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเทียบเคียงโมเดลของประเทศสิงคโปร์ แบ่งผลประโยชน์เป็น 2 ช่วง คือ

1. ในช่วงของการก่อสร้างซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี ซึ่งจะใช้เงินลงทุน อย่างน้อยจุดละ 100,000 ล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นจุดละ 0.23 รวม 3 ปี มีการลงทุนไม่ต่ำกว่าจุดละ 30,000 ล้านบาท


2. ช่วงเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบ จะสามารถเพิ่มรายจ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัวได้ไม่ต่ำกว่า 66,000 บาทต่อหัว ซึ่งหากคิดจากฐานตัวเลขของนักท่องเที่ยว 3.6 ล้านคน ทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 1% ส่วนรายละเอียดเรื่องการดำเนินโครงการ รายได้ของรัฐ และการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนรัฐบาลจะขอรับไว้ เพื่อพิจารณาเพื่อผลักดันกฎหมายต่อไป

ส่วนโครงการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นายจุลพันธ์ ยืนยันว่าโครงการมีความพร้อมในเรื่องของเม็ดเงิน ต้องขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณทั้งงบเพิ่มเติมปี 2567 และงบประมาณประจำปี 2568 ทำให้มีเงินอยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งเฟสหนึ่งจะเป็นกลุ่มเปราะบาง ประกอบด้วยกลุ่มคนพิการ จะไม่มีการจำกัดอายุ และ กลุ่มเปราะบางซึ่งถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่เงินจะไม่ได้จ่ายผ่านบัตร แต่จะจ่ายผ่านบัญชี ซึ่งในกลุ่มนี้ยังมีประมาณ 1,000,000 คน ที่ไม่มีการผูกบัญชีเข้ากับระบบพร้อมเพล์ จึงขอให้เดินทางไปดำเนินการที่ธนาคารหรือตู้เอทีเอ็ม

โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้เมื่อนำมารวมกัน และรายชื่อไม่ซ้ำจะมีอยู่ประมาณ 14.5 ล้านคน ซึ่งจะได้รับเป็นเงินสด เนื่องจากจากการรับฟังความคิดเห็นหลายภาคส่วนเห็นว่าควรเร่งให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงได้ปรับเปลี่ยนวิธีการแจกเงิน โดยกำหนดวันโอนเงินไว้ที่ 25 – 30 กันยายน

ส่วนงบประมาณส่วนที่เหลือ ซึ่งเป็นงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยืนยันว่าการแจกเงินจะยังคงเป็นในรูปแบบของดิจิทัล วอลเล็ต และบลอกเชน และกำหนดเงื่อนไข เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจเหมือนเดิม และหลังจากนี้จะมีการประกาศวันแจกเงินที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ที่สุดแล้ว เงินจะถึงมือประชาชนครบ 10,000 บาท จนได้ และจะทำให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมนครศรีฯ

น้ำท่วมนครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย

สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลาย ไม่มีฝนตกลงมาเติม ทำให้ระดับน้ำลดลงในหลายจุด ถนนสายหลักกลับมาเปิดให้รถสัญจรได้แล้ว

ตร.ค้นบ้านหรูย่านราชพฤกษ์ เปิดบริษัท เบื้องหลังฟอกเงินเว็บพนัน

ตำรวจไซเบอร์เข้าค้นบ้านพักหรูย่านราชพฤกษ์ พบมีการเปิดเป็นบริษัทอำพราง เบื้องหลังใช้ฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

ข่าวแนะนำ

ชุมชนเทือกเขาหลวงเสียหายหนัก วอนเร่งช่วยด่วน

หลายพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยเฉพาะชุมชนบริเวณเทือกเขาหลวง เสียหายหนักจากน้ำป่า ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยด่วน

ขวัญใจสวนเสือพัทยา “สุดเขต” ลูกเสือโคร่งสีทองหน้าแบ๊ว

น้องสุดเขต เสือโคร่งสีทองหนึ่งเดียวในภาคตะวันออก กลายเป็นขวัญใจดวงใหม่ “หน้าแบ๊ว ขี้เล่น” อายุเพียง 11 เดือน

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ