ดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน ถกจัดสรรเวลาซักฟอกรัฐบาล

กทม.18 ธ.ค. – ดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้าน เลท 3 ชม. เหตุที่ประชุมสภา​ ถก พ.ร.บ.ประชามติ ยืดเยื้อ “เท้ง” ลั่นไม่อึดอัดใจที่มี “ลุงป้อม” มาอยู่กับเรา มองเนื้อหาอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องจุดยืนของแต่ละพรรค วันนี้แค่คุยเรื่องจัดสรรเวลา เชื่อราบรื่น โหน “งูเห่า” พรรคไทยสร้างไทยเป็นเรื่องภายใน


งานเลี้ยงพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ร้านเอิกเกริก ร้านอาหารริมน้ำ ย่านจรัญสนิทวงศ์ ตรงข้ามรัฐสภา เริ่มขึ้นประมาณ 20.50 น. ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่ได้นัดหมาย 18.00น. เพราะประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ยืดเยื้อจากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียง ประชามติ ซึ่งพรรคที่มาถึงพรรคแรกคือ พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และสส.พังงา พร้อมด้วยนายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ กรรมการบริหารพรรค และสส.หนองคาย ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย มีนายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรค ที่เดินทางมาถึงก่อนคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค​ ทั้งนี้งานเลี้ยงพรรรคร่วมฝ่านค้านในวันนี้ เป็นการจัดครั้งแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลจากนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงทิศทางการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก รวมถึงการเตรียมพร้อมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พรรคประชาชน จะให้มีขึ้นในไตรมาสแรกปี 2568

สำหรับเมนูอาหารในวันนี้ มีกับข้าว 9 อย่าง เช่น น้ำพริกโจร ปลากระพงทอดน้ำปลา ต้มยำปลาเก๋าน้ำข้น กุ้งซอสมะขาม ยําไข่เค็ม ไข่เจียว ออส่วนนิ่มหอยนางรม ใบเหลียงคั่วไข่ และหมูสับหนำเลี๊ยบ ส่วนของหวานเป็นบัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้านว่า จะมีการพูดคุยเรื่องการจัดสรรเวลาในการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ และจะมีการหารือเรื่องการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงการเดินหน้าเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ที่ก่อนหน้านี้นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้เดินหน้าไว้เราก็จะสานต่อ

เมื่อถามถึงกรณีไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มี สส. บางคนแสดงจุดยืนทางการเมืองไปยังพรรครัฐบาแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรค แต่เราพูดกันในหลักการ และวันนี้จะเห็นได้ว่ามีตัวแทนจากทุกพรรคเข้าร่วมรับประทานอาหารและพูดคุยกัน ส่วนเรื่องกระบวนการภายในแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไรทักประชาชนไม่สามารถไปก้าวก่ายได้

เมื่อถามว่าข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจำเป็นต้องแชร์กันหรือไม่ เพราะช่วงหลังพรรคพลังประชารัฐเริ่มมีบทบาทในการติดตามนโยบายรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า โดยปกติพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีการจัดสรรโควตาเวลาในการอภิปราย ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายจะไม่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะแต่ละครั้งจะมีการทำการบ้านของตัวเอง


เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่าคงเป็นหลายๆเรื่อง ที่เราทำข้อมูลมาหลายๆทาง ของฝากไปยังประชาชนและข้าราชการถ้ามีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือการดำเนินนโยบายของรัฐที่ไม่ถูกต้อง สามารถส่งข้อมูลมายังพรรคประชาชนได้ และยืนยันว่าการอภิปรายในครั้งประชาชนไม่ผิดหวังแน่นอน อยากให้ประชาชนติดตามในไตรมาสแรกของปีหน้าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อถามว่าการอภิปรายรอบนี้จะมีเรื่องของวุฒิภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นหนึ่งประเด็นก็จะมีการหยิบยกขึ้นมาหารือในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านวันนี้ด้วย เพราะเห็นว่าการทำงานของรัฐบาลก็ยังไม่ตอบโจทย์และมีข้อสงสัย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าในฐานะผู้นำฝ่ายค้านมองวุฒิภาวะของนายก รัฐมนตรีเป็นอย่างไร ซึ่งนายณัฐพงษ์กล่าวว่า นายกต้องพิสูจน์ให้เห็น ว่านายกตัวจริงคือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ไม่ใช่คนอื่น และการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนก็เป็นสิ่งที่นายกฯ ควรจะทำ บางภารกิจสามารถมอบหมายคนอื่นไปได้ ทุกอย่างอยู่ที่การบริหารจัดการ และอีกอย่างที่เป็นหน้าที่ของนายกฯ คือการมีความรับผิดชอบต่อสภา โดยการเข้ามาตอบกระทู้ถามสดในสภา ตนคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นและตารางการประชุมของสภาก็ถูกล็อกไว้แล้วว่าทุกวันพฤหัสจะต้องมีการตอบกระทู้ จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่ต้องมาตอบ นายกฯสามารถล็อคเวลาล่วงหน้าได้

เมื่อถามว่าการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐจะสามารถไว้วางใจกันได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องของความเป็นมืออาชีพ เราใช้วิธีการจัดสรรโควตาเราทำงานผ่านวิป เรามีการพูดคุยกัน ส่วนประเด็นที่จะอภิปรายก็เป็นหน้าที่ของแต่ละพรรค

ส่วนจุดยืนทางการเมืองและนโยบายที่ต่างกันมากๆของแต่ละพรรคจะเป็นอุปสรรคหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าไม่เป็นอุปสรรค เพราะจะเห็นว่าทุกพรรคมาร่วมทานอาหารตามคำเชิญ ส่วนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เดินทางด้วยตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ใครจะมาหรือไม่มาก็เป็นเรื่องภายในของพรรคและเชื่อว่าตัวแทนที่ส่งมาจะสามารถประสานงานไปยังพรรคได้ไม่มีปัญหาอะไร สส. ก็ถือเป็นผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่า ที่เคยพูดว่ามีเราไม่มีลุงแต่ตอนนี้มาเป็นพรรคฝ่ายค้านร่วมกันจะสามารถตรวจสอบรัฐบาลร่วมกันได้ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำงานของฝ่ายค้านกลไกอาจจะแตกต่างกับฝ่ายบริหาร ไม่จำเป็นที่ต้องพูดคุยกันถึงเนื้อหารายละเอียด ว่าจะมีทิศทางในการอภิปรายอย่างไร เพราะแต่ละพรรคก็จะมีจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง เพราะฉะนั้นการพูดคุยในวันนี้จะเป็นเรื่องของการจัดสรรเวลา และยืนยันว่าการที่มีลุงมาอยู่กับเราในวันนี้ไม่มีความอึดอัดใจใดๆ ทั้งสิ้น และการพูดคุยในวันนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อถามว่าจะสามารถฟังคำแนะนำของพลเอกประวิตรได้ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับการรับฟังหรือไม่รับฟัง เพราะเราทำงานกันผ่านวิป ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายแต่ละพรรคก็เป็นคนเตรียมเนื้อหาของตัวเอง.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]